ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่

บทนำ

การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นวิชาที่มีความสำคัญเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็ว มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับพัฒนาการความสนใจ ความถนัดของนักเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงจากการลงมือปฏิบัติ ฝึกให้นักเรียนคิดวิเคราะห์ และแก้ปัญหา กิจกรรมการเรียนรู้ต้องผสมผสานสาระทั้งทางด้านเนื้อหาและด้านทักษะกระบวนการ ตลอดจนปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่ดีงามถูกต้องเหมาะสมให้แก่นักเรียน สอดคล้องกับ นวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์ (2545) กล่าวไว้ว่า การจัดการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญซึ่งเกิดขึ้นจากพื้นฐานความเชื่อที่ว่า การจัดการศึกษามีเป้าหมายสำคัญที่สุดคือการจัดให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพของแต่ละคน บนความแตกต่างของนักเรียน ทั้งด้านความต้องการและความสนใจ ทักษะพื้นฐานอันเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการเรียนรู้ อันได้แก่ ความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน ความสามารถทางสมอง ระดับสติปัญญาและการแสดงออกของการเรียนรู้ที่แตกต่างกันระหว่างบุคคล

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษที่ 21 เน้นการพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ มีทักษะและมีความเชี่ยวชาญ สอดคล้องกับ วิจารณ์ พานิช (2555) กล่าวไว้ว่าทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้และฝึกฝนคือ 1) ทักษะในการค้นคว้าหาความรู้ 2) ทักษะในการสื่อสาร การนำเสนอ และการทำงานเป็นทีม 3) ทักษะในการคิดสร้างสรรค์ สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ CCPR Model และวิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ (2557) กล่าวไว้ว่า การเรียนแบบใหม่ต้องการให้เด็กคิด เน้นให้นักเรียนค้นคว้าอย่างต่อเนื่องสร้างทักษะในการเรียนรู้ สามารถนำเสนอการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายแยกแยะข้อมูลได้ และการสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้

การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ประสบปัญหาด้านกระบวนการคิดและความคิดสร้างสรรค์ ผู้วิจัยสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในการเรียนรู้ สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยให้ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ฝึกวาดภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก เป็นการฝึกทักษะการใช้เมาส์และความคิดสร้างสรรค์ พบว่า ผู้เรียนบางส่วนยังขาดทักษะการใช้เมาส์และเครื่องมือต่างๆ ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก และยังขาดความคิดสร้างสรรค์ในการวาดภาพ จากความสำคัญของสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้สอนจึงเกิดความสนใจที่จะศึกษาการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะการใช้เมาส์ มีความรู้ความเข้าใจการใช้เครื่องมือต่างๆ ในโปรแกรม พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และเกิดจินตนาการจากงานศิลปะได้อย่างหลากหลาย เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานและมีความสุขในการเรียน ส่งผลให้คุณภาพของการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

วัตถุประสงค์การวิจัย

1.เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

2.เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังได้รับ

ชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

3.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลัง

ได้รับชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

4.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้

โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ตัวแปรที่ศึกษา

1.ตัวแปรต้น ได้แก่ ชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2.ตัวแปรตาม ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความพึงพอใจต่อชุด

กิจกรรมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก

สมมติฐานของการวิจัย

ชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้ ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

ประโยชน์ของการวิจัย

1.ได้ชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกที่มีประสิทธิภาพ

ตามเกณฑ์ 80/80

2.นักเรียนได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยชุดแบบฝึกการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้

โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก

3.นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นหลังได้รับชุดแบบฝึกการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดย

ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก

4.นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรม

คอมพิวเตอร์กราฟิก

สรุปผลการวิจัย

จากการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. ชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 81.47 / 84.56

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3/1 ที่ได้รับชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้

โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก ด้านองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ทั้ง 4 องค์ประกอบ (ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น ความคิดริเริ่ม ความคิดละเอียดลออ) มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 11.53 เมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 17.50 และมีคะแนนพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกองค์ประกอบ โดยคะแนนพัฒนาการรวมเฉลี่ยเท่ากับ 1.49 คะแนน ร้อยละของคะแนนพัฒนาการเท่ากับ 29.95 แสดงว่า นักเรียนที่ได้รับชุดแบบฝึกการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก มีความคิดสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3/1 ที่ได้รับชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้

โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 10.24 เมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 18.76 แสดงว่านักเรียนที่ได้รับชุดแบบฝึกการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้

4.นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3/1 ที่ได้รับชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้

โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก มีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูคอม : [7 ม.ค. 2561 เวลา 12:15 น.]
อ่าน [5903] ไอพี : 110.168.215.142
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,162 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"

เปิดอ่าน 13,790 ครั้ง
ปรับ "ฮวงจุ้ย" ด้วยทิศมงคล เสริมดวงปี 2557
ปรับ "ฮวงจุ้ย" ด้วยทิศมงคล เสริมดวงปี 2557

เปิดอ่าน 17,489 ครั้ง
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี

เปิดอ่าน 71,397 ครั้ง
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด

เปิดอ่าน 30,165 ครั้ง
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล

เปิดอ่าน 16,470 ครั้ง
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
ประโยชน์ของโยเกิร์ต

เปิดอ่าน 36,848 ครั้ง
ประวัติ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ (พระเทพวิทยาคม)
ประวัติ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ (พระเทพวิทยาคม)

เปิดอ่าน 36,453 ครั้ง
เทคนิค "การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู"
เทคนิค "การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู"

เปิดอ่าน 549 ครั้ง
รวม 3 ยี่ห้อนมโปรตีนสูง อร่อยทานง่าย ดีต่อสุขภาพ 2024
รวม 3 ยี่ห้อนมโปรตีนสูง อร่อยทานง่าย ดีต่อสุขภาพ 2024

เปิดอ่าน 24,078 ครั้ง
การเขียนกราฟ
การเขียนกราฟ

เปิดอ่าน 13,007 ครั้ง
3 จุดหมายยอดฮิตที่คนไทยต้องทำประกันเดินทางก่อนไปเที่ยว
3 จุดหมายยอดฮิตที่คนไทยต้องทำประกันเดินทางก่อนไปเที่ยว

เปิดอ่าน 10,779 ครั้ง
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล

เปิดอ่าน 202,968 ครั้ง
ลำดับขั้นในการวิจัย
ลำดับขั้นในการวิจัย

เปิดอ่าน 3,575 ครั้ง
ปลูก "อโวคาโด" พืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้สูง
ปลูก "อโวคาโด" พืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้สูง

เปิดอ่าน 10,367 ครั้ง
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 113,875 ครั้ง
ความเชื่อของชาวอีสาน
ความเชื่อของชาวอีสาน
เปิดอ่าน 26,300 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'
เปิดอ่าน 24,063 ครั้ง
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"
เปิดอ่าน 23,551 ครั้ง
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย
เปิดอ่าน 28,004 ครั้ง
เกมส์ระบายสี
เกมส์ระบายสี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ