ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ผู้วิจัย นางนวพร พรหมสิทธิ์
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองลุมพุก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑
ปีที่พิมพ์ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
บทคัดย่อ
การสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะเป็นกิจกรรมที่นักเรียนมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรม โดยมีครูเป็นผู้ให้การแนะนำและกระตุ้นให้นักเรียนสนใจในบทเรียน ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ช่วยเพิ่มเติมเสริมความชำนาญ ความคล่องแคล่วให้แก่ผู้เรียน ได้ประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้ เพราะได้ลงมือปฏิบัติฝึกฝนจริง ๆ ดังนั้น ดังนั้น การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ การอ่านและการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ และ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านหนองลุมพุก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ จำนวน ๑๔ คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี ๓ ชนิด ประกอบด้วย ๑) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๑๐ ชุด ๒) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ (Multiple Choices) ซึ่งมี ๔ ตัวเลือก จำนวน ๔๐ ข้อ และ ๓) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ซึ่งมี ๕ ระดับ จำนวน ๑๐ ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาประสิทธิภาพ และทดสอบสมมติฐานใช้ t test (Dependent Samples) ผลการวิจัย พบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๗.๒๑/๘๖.๒๕ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
๒. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๓. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ดังนั้น การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งเป็นสาระการเรียนรู้ที่เน้นการฝึกทักษะ จึงควรสนับสนุนให้ครูผู้สอนใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จะช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสฝึกฝนจนเกิดความเม่นยำ ความชำนาญ ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และมีความพึงพอใจในการเรียน