ชื่อเรื่อง รายงานการใช้แบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
ผู้ศึกษา นางสาวอนุตา ดียิ่ง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมทาราม กองการศึกษาเทศบาล
นครระยอง กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่ศึกษา ๒๕๕๙
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและ
การเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน- หลังเรียนด้วยแบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เทียบกับเกณฑ์ของโรงเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๕ เพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนต่อการใช้แบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมทาราม ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๓๘ คน ซึ่งได้มาจาการเลือกด้วยวิธีเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้
ในการวิจัยคือ แบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๗ เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ แบบประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๑๐ ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ครั้งนี้คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ประสิทธิภาพของการพัฒนาแบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ
ไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพ ๘๖.๔๖/๘๘.๙๔
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด(๘๐/๘๐) และดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาแบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
มีค่าดัชนีเท่ากับ ๐.๖๒๘๓ หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๖๒.๘๓
๒. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วย
แบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๓. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกภาษาไทย
ส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เทียบกับเกณฑ์ของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนตั้งเกณฑ์ไว้ร้อยละ ๗๕ พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ของโรงเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .๐๕
๔. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนหลังการใช้แบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๕ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ๐.๔๘ ซึ่งระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
สรุปได้ว่า จากการใช้แบบฝึกภาษาไทยส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ส่งผลให้นักเรียนได้รับการเรียนรู้ตรงตามตัวชี้วัดและจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนมีพื้นฐานทักษะทางภาษา มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกดที่ถูกต้อง ชัดเจน ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น และมีคุณภาพในการนำไปใช้ประกอบการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น หรือใช้เพื่อเป็นพื้นฐานประกอบการเรียนการสอนรายวิชาอื่นๆ