เรื่อง รายงานผลการประเมินโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้ว
ผู้จัดทำ นางสาวชัญญ์ชญา มุ้งบัง
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองแก้ว
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้วสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรีเขต1ได้นำรูปแบบการประเมินแบบจำลองซิปป์ (CIPP Model) ตามแนวคิดของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam)มาเป็นรูปแบบของการประเมินโครงการโดยได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการประเมินไว้ดังนี้1) เพื่อประเมินบริบทของโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้ว 2) เพื่อประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้ว 3) เพื่อประเมินกระบวนการของโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้ว และ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้วประชากรที่ใช้ในการประเมินโครงการครั้งนี้ ได้แก่ 1) กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนวัดหนองแก้ว ปีการศึกษา 2560 จำนวน 7 คน ซึ่งไม่รวมกรรมการที่เป็นผู้บริหารโรงเรียนและตัวแทนครู 2) ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนวัดหนองแก้ว ปีการศึกษา 2560 จำนวน 6 คน โดยเป็นครูและบุคลากรที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการ 3) นักเรียนโรงเรียนวัดหนองแก้ว ปีการศึกษา 2560 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 จำนวน 20 คน โดยเป็นนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้ว และ 4) ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนวัดหนองแก้ว ปีการศึกษา 2560 จำนวน 20 คน โดยผู้ประเมินได้กำหนดให้เป็นไปตามกลุ่มประชากรที่เป็นนักเรียน รวมประชากรจำนวนทั้งสิ้น 53 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติพื้นฐาน คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สำหรับการหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟา a ของครอนบาค (Cronbach) ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS
สรุปผลการประเมินโครงการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของโรงเรียนวัดหนองแก้ว พบว่า
1. การประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ใน ระดับมาก (μ = 4.44, σ = 0.25) โดยวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าวมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษา แนวทางการดำเนินงาน และความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถที่จะดำเนินโครงการต่อไปได้
2. การประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (μ = 4.13, σ = 0.45) คือ มีความพร้อมในเรื่องของบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ สื่อ อาคารสถานที่ และการบริหารจัดการ ที่จะส่งผลให้การดำเนินโครงการประสบความสำเร็จ
3. การประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (μ = 4.38 , σ = 0.17) คือ มีการวางแผนงานโครงการอย่างชัดเจนดำเนินงานโครงการอย่างเป็นระบบ มีการนิเทศ กำกับติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการรายงานผล การปรับปรุง พัฒนาให้สาธารณชนรับทราบ ส่งผลให้การดำเนินงานตามแผนงานโครงการดำเนินไปด้วยดี
4. การประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (μ = 4.20 , σ = 0.55) คือ บรรลุผลตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการทุกกิจกรรม ก่อให้เกิดผลดีกับนักเรียนครู บุคลากร และโรงเรียน