|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบของนักเรียน 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบของนักเรียน กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชุมชนวัดจันทาราม ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสารแบบประเมิน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์และแบบสอบถาม ความพึงพอใจการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า ไอ3เอดีไอ(I3ADI Model) มีองค์ประกอบของรูปแบบ 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. หลักการ การจัดการเรียน การสอนภาษาไทยเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยเน้นกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนได้อ่านและวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะทำให้การจัดการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายตามมาตรฐานการอ่าน 2. วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน โดยผ่านการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้น 3. กระบวนการเรียนการสอน ซึ่งมี 6 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การศึกษาสาระ การเรียนรู้จากบทอ่าน (Informing) ขั้นที่ 2 การคิดวิเคราะห์เรื่องที่อ่าน (Analysis Thinking) ขั้นที่ 3 การตระหนักในเรื่องที่อ่าน (Awareness) ขั้นที่ 4 การนำเสนอทางเลือกเพื่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน (Alternative) ขั้นที่ 5 การตัดสินใจเลือกทางเลือก (Decision Making) ขั้นที่ 6 การนำไปประยุกต์ใช้ (Improvement) และ 4. เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ได้แก่ ระบบสังคม (Social System) การเรียนรู้ตามรูปแบบต้องมีระบบสังคมแห่งการเรียนรู้ ดังนี้ 1) นักเรียนต้องเป็นผู้รับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเองและการเรียนรู้ของกลุ่ม 2) นักเรียนต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน กล้าพูด กล้าเสนอความคิด กล้าที่จะซักถาม 3) นักเรียนต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนอย่างต่อเนื่องกล้าที่จะเสนอความคิด และกล้าที่จะซักถาม 4) นักเรียนต้องมีทักษะและกล้าที่จะตั้งคำถามเพื่อค้นหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้ ระบบสนับสนุน (Support System) การจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบผู้สอนจะต้องจัดระบบสนับสนุนดังนี้ 1) ผู้สอนเป็นผู้จัดบรรยากาศการเรียนรู้ทั้งด้านกายภาพและจิตภาพในเชิงบวก 2) ผู้สอนจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์การเรียนรู้ให้เพียงพอกับความต้องการของนักเรียน 3) ผู้สอนจัดบรรยากาศการเรียนให้อบอุ่น ผ่อนคลาย เป็นกันเอง และมีจิตสำนึกในการมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง 4) ผู้สอนต้องกระตุ้นให้นักเรียนกล้าที่จะตั้งคำถามในการคิดวิเคราะห์ตามลักษณะการคิดตามสีของหมวก 5) ผู้สอนจัดหาสถานการณ์หรือบทอ่านซึ่งมีประเด็นและมุมมองหลากหลายและเหมาะสมกับวัยของนักเรียนเพียงพอกับการศึกษาค้นคว้า อภิปราย และตัดสินใจ หลักการตอบสนอง การนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบของนักเรียน ไปใช้ต้องคำนึงถึงการตอบสนองต่อนักเรียนในระหว่างการเรียนรู้ตามรูปแบบดังต่อไปนี้ 1) ผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเรียนรู้ 2) ผู้สอนสนทนาซักถามเพื่อกระตุ้นการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใช้คำถาม กระตุ้นการคิดวิเคราะห์ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบ 3) ผู้สอนดูแล และติดตามให้นักเรียนเรียนรู้แบบร่วมมือกันเพื่อให้เกิดภาวการณ์ร่วมคิดทั้งใน กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่
ผลการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบของนักเรียนไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง สรุปได้ ดังนี้
2.1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ไอ3เอดีไอ (I3ADI Model) มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.09/82.05 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1 และเมื่อพิจารณาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอน จากการนำไปทดลองใช้กับบทอ่านลักษณะต่างๆ คือ นิทาน ข่าว บทความ เรื่องสั้น และสารคดี พบว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) ทุกบทอ่าน แสดงให้เห็นว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามทฤษฎีหมวกความคิดหกใบของนักเรียนมีประสิทธิภาพด้านกระบวนการและด้านผลลัพธ์สูง
|
โพสต์โดย กุ้ง : [21 ธ.ค. 2560 เวลา 11:22 น.] อ่าน [5290] ไอพี : 203.159.222.64
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 16,732 ครั้ง
| เปิดอ่าน 43,454 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,327 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,167 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,140 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,569 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,970 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,316 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,996 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,515 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,959 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,804 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,756 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,543 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,968 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 20,921 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,562 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,355 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,803 ครั้ง
| เปิดอ่าน 47,692 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|