ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของครูโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคีสังกัดองค์การบริหารส่

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของครูโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคีสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ผู้วิจัย นายสุรศักดิ์ ภาคเจริญ

ปีที่ทำวิจัย 2559-2560

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของครูโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี 2) เพื่อพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของครูโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน และสามารถทำวิจัยในชั้นเรียนได้ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ที่มีต่อกระบวนการในการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการวิจัยปฏิบัติการดำเนินการพัฒนา 2 วงรอบ แต่ละวงรอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการวางแผน (Planning) ขั้นตอนการปฏิบัติ (Action) ขั้นตอนการสังเกต (Observation) และขั้นตอนการสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มผู้ร่วมวิจัยมีจำนวน 14 คน ประกอบด้วยผู้วิจัยและครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 13 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัยศึกษานิเทศก์และวิทยากรร่วม จำนวน 2 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบบันทึกการประชุมการสนทนากลุ่ม แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบบันทึกการประชุม แบบบันทึกการนิเทศ แบบประเมินเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน แบบประเมินผลงานการวิจัยในชั้นเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจ ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้ตรวจสอบคุณภาพและความถูกต้องของข้อมูลโดยใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation Technique) นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่ม จัดกลุ่มให้เป็นหมวดหมู่ตามกรอบการวิจัยประมวลผลและสรุปผลการวิจัย ผู้วิจัยนำเสนอผลการวิจัย ในรูปแบบขอการบรรยาย (Narrative From) ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ โดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละ

ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของครูโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ครูผู้ร่วมวิจัย จำนวน 13 คนมีความรู้ ความเข้าใจและเกิดทักษะในการทำวิจัยในชั้นเรียน และนำไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนตามเนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย 5 ขั้นตอน มีคะแนนจากการทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การวิจัยในชั้นเรียน มีคะแนนเฉลี่ย 26.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.67 จากคะแนนเต็ม มีผลงานการวิจัย ในชั้นเรียนเป็นของตนเองคนละ 1 เรื่อง สามารถเขียนเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับดีมาก (X-bar = 4.54) มีผลการประเมินผลงานการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวมอยู่ในระดับดี (X-bar = 3.55) เมื่อพิจารณาเป็นรายบุคคลพบว่าอยู่ในระดับดี จำนวน 9 คน ปานกลาง จำนวน 4 คน จึงดำเนินการพัฒนาต่อในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นลง พบว่า กลุ่มผู้ร่วมวิจัยจำนวน 4 คน มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะสามารถปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียนสูงขึ้นและเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน ได้สำเร็จบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างดีและมีผลงานการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวม อยู่ในระดับดีมาก (X-bar = 4.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายบุคลพบว่า มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นจากวงรอบที่ 1 ทุกคนโดยมีผลงานการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับดีมาก จำนวน 9 คน และอยู่ในระดับดี จำนวน 4 คน

โดยสรุปการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของครูโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี โดยใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาคือการประชุมเชิงปฏิบัติการ การนิเทศภายในและการนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เป็นกลยุทธ์ที่มีความเหมาะสม สามารถพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถเขียนเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียนและสามารถเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการทุกคน ดังนั้นจึงควรส่งเสริม สนับสนุนให้นำกลยุทธ์ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสมรรถนะทางการวิจัยเพื่อพัฒนา การเรียนรู้ของครูในสถานศึกษาอื่น ๆ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียนต่อไป

โพสต์โดย สุรศักดิ์ ภาคเจริญ : [18 ธ.ค. 2560 เวลา 08:38 น.]
อ่าน [5469] ไอพี : 159.192.225.158
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,611 ครั้ง
สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลก ปี 2557
สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลก ปี 2557

เปิดอ่าน 20,154 ครั้ง
เทศกาล "ไหว้บะจ่าง"
เทศกาล "ไหว้บะจ่าง"

เปิดอ่าน 24,527 ครั้ง
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน

เปิดอ่าน 12,982 ครั้ง
ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา
ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา

เปิดอ่าน 11,914 ครั้ง
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด

เปิดอ่าน 8,466 ครั้ง
สารอาหารแห่งอนาคต
สารอาหารแห่งอนาคต

เปิดอ่าน 18,127 ครั้ง
ลดน้ำหนักได้ด้วยกาแฟ
ลดน้ำหนักได้ด้วยกาแฟ

เปิดอ่าน 10,501 ครั้ง
วิกฤติโลกร้อน มนุษย์ย้ายไปดาวอังคาร ปี ค.ศ.2020
วิกฤติโลกร้อน มนุษย์ย้ายไปดาวอังคาร ปี ค.ศ.2020

เปิดอ่าน 8,716 ครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์ (1)
ความคิดสร้างสรรค์ (1)

เปิดอ่าน 35,329 ครั้ง
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)

เปิดอ่าน 26,905 ครั้ง
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ

เปิดอ่าน 27,376 ครั้ง
ลักษณะวลีและประโยคพื้นฐาน
ลักษณะวลีและประโยคพื้นฐาน

เปิดอ่าน 79,541 ครั้ง
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 13,813 ครั้ง
กินถั่วช่วยคุ้มกัน โรคมะเร็ง-หัวใจ
กินถั่วช่วยคุ้มกัน โรคมะเร็ง-หัวใจ

เปิดอ่าน 64,579 ครั้ง
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย

เปิดอ่าน 19,929 ครั้ง
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
เปิดอ่าน 43,430 ครั้ง
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้
เปิดอ่าน 14,240 ครั้ง
องค์ประกอบ ของความสำเร็จ
องค์ประกอบ ของความสำเร็จ
เปิดอ่าน 372,668 ครั้ง
ครุ ลหุ เอก โท
ครุ ลหุ เอก โท
เปิดอ่าน 20,971 ครั้ง
พระสงฆ์กับความเป็นครู
พระสงฆ์กับความเป็นครู

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ