ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญ

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน

โรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญ

ผู้ศึกษา เยาวนาฏ พรรณานนท์

ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2559

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญ มี จุดมุ่งหมายเพื่อประเมินผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไปของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับโครงการ 2) เพื่อประเมินสภาวะแวดล้อมของโครงการ 3) เพื่อประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ 4) เพื่อประเมินกระบวนการของโครงการ 5) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการ

6) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลและความสัมพันธ์เชิงประจักษ์ในด้านสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการและผลผลิตของโครงการกับสิ่งที่คาดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งมีวิธีการดำเนินการประเมินโครงการ โดยประยุกต์ใช้แบบจำลองที่เรียกกันทั่วไปว่า CIPP Model ของ แดเนียล แอล สตัฟเฟิลบีม (Daneil L. Stufflebeam. 2004 : 245 - 266) เป็นแนวทางในการประเมิน 4 ด้าน 1) ด้านสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) 2) ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) 3) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) 4) ด้านผลผลิตของโครงการ (Product Evaluation) ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 35 คน ประกอบด้วย 1) นักเรียน จำนวน 12 คน ได้จากการเลือกแบบเจาะจงเฉพาะนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นละ 4 คน ในปีการศึกษา 2559 2) ครูผู้สอน จำนวน 4 คน 3) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน จำนวน 7 คน 4) ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 12 คน ได้จากการเลือกแบบเจาะจง ซึ่งจากผู้ปกครองนักเรียนใน (1) ซึ่งระยะเวลา ที่ใช้ในการดำเนินงาน โครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญ ใช้ระยะเวลา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึง 27 มีนาคม 2560 และดำเนินการประเมินโครงการโดยใช้ 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แบบตรวจสอบรายการ 4) แบบประเมินตนเอง มีการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินโครงการพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลทั่วไปของผู้เกี่ยวข้องโครงการ

1.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวนชั้นละ 4 คน รวมจำนวน 12 คน

จากผู้ให้ข้อมูลที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 34 ซึ่งได้จากการเลือกแบบเจาะจงเป็นตัวแทนสำหรับตอบแบบสอบถาม

1.2 ครูผู้สอนทุกคนในโรงเรียน รวมจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12 จากผู้ให้ข้อมูลที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด

1.3 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน จำนวน 7 คน จากผู้ให้ข้อมูลที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด โดยไม่รวมผู้บริหารและตัวแทนครู คิดเป็นร้อยละ 20

1.4 ผู้ปกครองนักเรียนที่เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โดยเลือกแบบเจาะจงจำนวน 12 คน ซึ่งได้จากผู้ปกครองในข้อ 1 จากผู้ให้ข้อมูลที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 34

2. ผลการประเมินจากผู้เกี่ยวข้องทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

2.1 ด้านสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) เป็นการประเมินวัตถุประสงค์ของโครงการ ว่ามีความสอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียนและความต้องการของครูโรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญ

ความคิดเห็นของนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน ครูผู้สอน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านสภาวะแวดล้อม ของโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญพบว่าคามคิดเห็นด้านความคาดหวังของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.29) และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.62) (เกณฑ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50)

2.2 ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับความเหมาะสมของปัจจัยเบื้องต้นที่นำมาใช้ในการดำเนินโครงการ ซึ่งประกอบด้วย บุคลากร สถานที่ วัสดุอุปกรณ์และงบประมาณ ความคิดเห็นของนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอนของโรงเรียน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านปัจจัยเบื้องต้น ของโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญพบว่าคามคิดเห็นด้านความคาดหวังของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.94) และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.67) (เกณฑ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50)

2.3 ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับความก้าวหน้าของการดำเนินงานตามโครงการ กิจกรรมของโครงการ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคของโครงการ

ความคิดเห็นของนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอนของโรงเรียน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านกระบวนการของโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญพบว่าคามคิดเห็นด้านความคาดหวังของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.80) และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.73) (เกณฑ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50)

2.4 ด้านผลผลิตของโครงการ (Product Evaluation) เป็นการประเมินผลสัมฤทธิ์

ของโครงการโดยพิจารณาจากการบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการว่าบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายหรือไม่

มีผลผลิตจากโครงการอะไรบ้าง ความคิดเห็นของนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

ของโรงเรียนครูผู้สอน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านผลผลิต ของโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญ จากตารางที่สรุปผลได้ว่าบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกระดับมีความคิดเห็นเกี่ยวกับความคาดหวังและสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของโครงการในด้านผลผลิต พบว่าคามคิดเห็นด้านความคาดหวังของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.89) และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.64) (เกณฑ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50)

3. ผลการประเมินตนเองเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจและความสามารถที่นำไปปฏิบัติของโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนบ้านบุ่งเบ้าห้วยเจริญพบว่า การประเมินตนเองของนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนครูผู้สอน และผู้ปกครองนักเรียน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานตามโครงการสูงกว่าเกณฑ์ ( = 4.65)

และสามารถนำไปปฏิบัติได้มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ( = 3.60) (เกณฑ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50)

4. ผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลและความสัมพันธ์เชิงประจักษ์ในด้านสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการและผลผลิตของโครงการกับสิ่งที่คาดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง พบว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากโครงการ ในด้านสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการและผลผลิตมีความสัมพันธ์กันทุกด้าน กล่าวคือ เมื่อมีความคิดเห็นในด้านสภาวะแวดล้อมอยู่ในระดับมากที่สุด มีความคิดเห็นด้านปัจจัยเบื้องต้น อยู่ในระดับมากที่สุด ก็ย่อมมีความคิดเห็นในด้านกระบวนการและด้านผลผลิตอยู่ในระดับมากที่สุดด้วยเช่นกัน

สรุปได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของโครงการมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเมื่อความคิดเห็นในด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด ทำให้ส่งผลถึงปัจจัยเบื้องต้นของโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด ในเมื่อปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน โครงการมีความเพียงพอ เหมาะสมในระดับมากที่สุด ทำให้การดำเนินงานโครงการสามารถดำเนินการได้ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน และย่อมส่งผลให้เกิดขึ้นจริงหรือสิ่งที่ได้รับจากโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย เยาวนาฏ พรรณานนท์ : [11 ธ.ค. 2560 เวลา 20:06 น.]
อ่าน [4516] ไอพี : 223.205.131.139
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,483 ครั้ง
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้

เปิดอ่าน 4,874 ครั้ง
การเลือกใช้โปรแกรมเงินเดือนสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
การเลือกใช้โปรแกรมเงินเดือนสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

เปิดอ่าน 11,154 ครั้ง
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ

เปิดอ่าน 11,629 ครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง

เปิดอ่าน 33,507 ครั้ง
FOCUS ประเด็นจาก PISA : การศึกษาเวียดนาม: ทำไมนักเรียนจึงมีผลการประเมินสูง
FOCUS ประเด็นจาก PISA : การศึกษาเวียดนาม: ทำไมนักเรียนจึงมีผลการประเมินสูง

เปิดอ่าน 10,201 ครั้ง
วิธีง่าย ๆ ในการเผาผลาญแคลอรีนอกยิม
วิธีง่าย ๆ ในการเผาผลาญแคลอรีนอกยิม

เปิดอ่าน 14,438 ครั้ง
ถั่วพร้า
ถั่วพร้า

เปิดอ่าน 14,086 ครั้ง
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท

เปิดอ่าน 13,069 ครั้ง
คลิปการทำให้เสื้อที่ซักเรียบเหมือนรีด ด้วยน้ำแข็งเพียง 3ก้อน
คลิปการทำให้เสื้อที่ซักเรียบเหมือนรีด ด้วยน้ำแข็งเพียง 3ก้อน

เปิดอ่าน 8,781 ครั้ง
ปิดตำนาน Geocities ผู้แพ้ในโลกอินเตอร์เน็ต
ปิดตำนาน Geocities ผู้แพ้ในโลกอินเตอร์เน็ต

เปิดอ่าน 22,160 ครั้ง
5 เทคนิคเริ่มอาชีพเสริมอย่างมั่นใจ
5 เทคนิคเริ่มอาชีพเสริมอย่างมั่นใจ

เปิดอ่าน 9,060 ครั้ง
รู้หรือยัง? เจ้าของเสียงประกาศบน BTS คือใคร
รู้หรือยัง? เจ้าของเสียงประกาศบน BTS คือใคร

เปิดอ่าน 14,843 ครั้ง
ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพสักคำ?! ประกันชีวิตอาวุโส...เรื่องที่ต้องรู้ แต่ไม่ได้บอก
ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพสักคำ?! ประกันชีวิตอาวุโส...เรื่องที่ต้องรู้ แต่ไม่ได้บอก

เปิดอ่าน 32,584 ครั้ง
ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา
ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา

เปิดอ่าน 10,673 ครั้ง
โชว์ภาพ 3 มิติ แก๊ดเจ็ตใหม่ บัตรประชาชนอนาคต
โชว์ภาพ 3 มิติ แก๊ดเจ็ตใหม่ บัตรประชาชนอนาคต

เปิดอ่าน 11,158 ครั้ง
หนังสือ 108 คำถาม พนักงานราชการ 2
หนังสือ 108 คำถาม พนักงานราชการ 2
เปิดอ่าน 11,559 ครั้ง
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
เปิดอ่าน 13,525 ครั้ง
"อัญชัน"..ผมงามและช่วยในการมองเห็น - ดินดีสม เป็นนาสวน
"อัญชัน"..ผมงามและช่วยในการมองเห็น - ดินดีสม เป็นนาสวน
เปิดอ่าน 11,394 ครั้ง
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี
เปิดอ่าน 30,442 ครั้ง
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ