ชื่อเรื่อง : รายงานผลการสร้างและการใช้เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน รหัสวิชา บธ 0205 ในหลักสูตรอนุปริญญาบริหารธุรกิจ
(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556) วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร
ชื่อผู้วิจัย : นายทิวากร เหล่าลือชา
ปี พ.ศ.: 2560
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการสอนและ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนที่สอนโดยใช้เอกสารประกอบการสอนรายวิชาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อเอกสารประกอบการสอนรายวิชาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน รหัสวิชา บธ 0205 ระดับอนุปริญญา หลักสูตรอนุปริญญาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร
การดำเนินการวิจัยโดยการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการวิเคราะห์ กำหนดเป็นแนวคิด จัดสร้างเอกสารประกอบการสอน นำเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินประสิทธิภาพ รวบรวมข้อมูล เพื่อทำการวิเคราะห์และสรุปผลนำไปปรับปรุงแก้ไข จัดสร้างเป็นเอกสารประกอบการสอน รายวิชาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน รหัสวิชา บธ 0205 ฉบับสมบูรณ์ ประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน เนื้อหา กิจกรรมปฏิบัติแบบฝึกหัด สรุปผล คำศัพท์ และแบบทดสอบหลังเรียน นำไปทดลองและใช้จัดการเรียนการสอนกับนักศึกษาระดับอนุปริญญา หลักสูตรอนุปริญญาบริหารธุรกิจ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2556) วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาหลักการตลาด รหัสวิชา
บธ 0205 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย แบ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือเอกสารประกอบการสอน และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินสำหรับผู้เชี่ยวชาญ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนและของครูผู้สอนที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการสอนรายวิชาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน รหัสวิชา บธ 0205
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การประเมินประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน และความพึงพอใจของผู้เรียนและครูผู้สอน พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมทุกรายการที่ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.94 ค่าคะแนนจากการทดสอบระหว่างเรียน มีค่าประสิทธิภาพ (E1/ E2) เท่ากับ 87.60/ 81.54 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ ร้อยละ 80 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 49.09 และหลังเรียนมีเฉลี่ยเท่ากับ 69.43 ผลต่างเท่ากับ 20.34 คิดเป็นร้อยละ 38.85 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักศึกษา พบว่า ภาพรวมคะแนนความพึงพอใจ ความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกรายการมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.50 - 4.70 สามารถเรียงตามลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับได้ดังนี้
1) เอกสารประกอบการสอนมีเนื้อหาอ่านเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน 2) รูปเล่มมีขนาดพอเหมาะ และ 3) เลือกใช้ขนาด สี ตัวอักษรได้เหมาะสม ระดับความคิดเห็นมากที่สุด ตามลำดับ และผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของครูผู้สอนพบว่า ภาพรวมคะแนนความพึงพอใจ ความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกรายการมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่างทุกรายการมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.50 - 4.70 สามารถเรียงตามลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับได้ดังนี้ 1) เอกสารประกอบการสอนมีเนื้อหาสมบูรณ์ตรงตามคำอธิบายรายวิชาและตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ระดับความคิดเห็นมากที่สุด 2) มีการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและเน้นการมีส่วนร่วมของนักศึกษาและครูผู้สอน ระดับความคิดเห็นมากที่สุด และ 3) แบบทดสอบก่อนเรียนสอดคล้องกับเนื้อหาและจุดประสงค์การเรียนรู้ ตามลำดับ