จากการวิจัยและพัฒนาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร โดยมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร
2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร 3) เพื่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร กลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนเทศบาลเมืองพัทยา 7 ( บ้านหนองพังแค) สำนักการศึกษาเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี จำนวน 47 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1)แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร 2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสารชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ช้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติที (t-test for dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วย
การเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร โรงเรียนเทศบาลเมืองพัทยา 7 ( บ้านหนองพังแค) สำนักการศึกษาเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี พบว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนยังขาดการให้นักเรียนมีส่วนร่วมและส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะในการคิดแก้ปัญหา และสรุปความคิดรวบยอดด้วยตนเอง
2. ประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสาร มีค่าเท่ากับ 81.47/80.69 ซึ่งมีค่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์กำหนด 80/80
3. ผลการใช้ประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสารดังนี้คือ
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัย (BANCHETAWAN Model) วิชาบาร์โค้ดแลกแก้วลดโลกร้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ระดับคะแนนทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนอยู่ในระดับดีมากและคะแนนลักษณะนิสัยหลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีระดับความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารและสมบัติของสารเรื่องเท่ากับ 4.35 ซึ่งอยู่ในระดับมาก