ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2558
ชื่อผู้วิจัย นางณัฐธยาน์ โพธิ
กลุ่มสาระ ภาษาไทย
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2558
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติไทยมีความสำคัญและจำเป็นต่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันของมนุษย์
ซึ่งมนุษย์ใช้ทักษะที่สำคัญทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน การอ่านเป็นทักษะพื้นฐานทักษะหนึ่งในการเรียนวิชาภาษาไทย ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการถ่ายทอดในระดับที่สูงขึ้น เพราะการอ่านสะกดคำที่ถูกต้องจะทำให้นักเรียนอ่านเป็นคำและอ่านประโยคได้ถูกต้อง นอกจากนี้การอ่านคำที่ถูกต้องจะทำให้นักเรียนเกิดความมั่นใจในการใช้ภาษาไทยของตนเองและสามารถพัฒนาไปสู่ทักษะการอ่านขั้นสูงต่อไป
ปัจจุบันนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 ปีการศึกษา 2558 ประสบปัญหาขาดทักษะการอ่านสะกดคำที่ถูกต้อง นักเรียนออกเสียงพยัญชนะและสระไม่ถูกต้อง ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1/3
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำที่ถูกต้อง
2. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาไทย
3. เพื่อสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาไทย
ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3
ปีการศึกษา 2558 ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยต่ำ
วิธีดำเนินการวิจัย
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1/3 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 31 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1/3 ปีการศึกษา 2558
ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 จำนวน 12 คน
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ และแบบทดสอบก่อนเรียนและ
หลังเรียน
แบบฝึกทักษะการอ่าน จำนวน 5 หน่วย ได้แก่
1) รูปและเสียงพยัญชนะ
2) รูปและเสียงสระ
3) รูปและเสียงวรรณยุกต์
4) การแจกลูกสะกดคำในแม่ ก กา
5) การแจกลูกสะกดคำที่มีตัวสะกด
3. การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินตามขั้นตอนดังนี้
3.1 ศึกษาสภาพปัญหา และวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา
3.2 เลือกประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๓ จำนวน ๓๑ คน
3.3 ทดสอบความสามารถในการอ่านกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๓ จำนวน ๓๑ คน
3.4 ผู้วิจัยบันทึกผลการอ่านและคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างที่มีผลการอ่านต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ ๖๐
3.5 ผู้วิจัยสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ จำนวน ๕ หน่วยการเรียนรู้
3.6 ผู้วิจัยสร้างแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
3.7 นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๑๒ คน ทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
3.8 นักเรียนฝึกอ่านแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดที่ผู้วิจัยจัดทำขึ้น
3.9 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ( Post-test )
4. การวิเคราะห์ข้อมูล / สถิติที่ใช้ในการวิจัย
4.1 ใช้สถิติค่าเฉลี่ยจากการอ่านแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ จำนวน ๕ หน่วย
4.2 การเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน
5. สรุปผลการวิจัย
จากการศึกษาและวิเคราะห์คะแนนที่ได้จากการอ่านสะกดคำของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 จำนวน 12 คน พบว่า นักเรียนที่ได้รับการฝึกอ่านจากแบบฝึกทักษะการอ่าน มีการพัฒนาด้านการอ่านสะกดคำเพิ่มขึ้นจากเดิม และนักเรียนสามารถทำคะแนนการอ่านหลังเรียนได้สูงกว่าก่อนเรียนและจากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีความมั่นใจในการอ่านมากขึ้น จากการเสริมแรงขณะอ่านสะกดคำช่วยให้นักเรียนมีกำลังใจได้คะแนนสูงขึ้น
6. ข้อเสนอแนะ
การอ่านเป็นทักษะที่สำคัญซึ่งจะสัมฤทธิ์ผลได้จากการกระทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และควรจัดทำแบบฝึกทักษะการอ่านขั้นสูงเพิ่มเติม