ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม สังกัด

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอ

เพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

มัธยมศึกษา เขต 21

ผู้ประเมิน เทวินทร์ แสนวงษ์

ปีที่ทำการพิมพ์ 2560

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 ครั้งนี้

มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม ตามความเห็นของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน และผู้ปกครอง 2) ประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม

ตามความเห็นของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน และผู้ปกครอง 3) ประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม ตามความเห็นของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน และผู้ปกครอง 4) ประเมินด้านผลที่ได้รับของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม ตามความเห็นของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง และ 5) ประเมินด้านผลกระทบของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาสวรรค์พิทยาคม ตามความเห็นของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง โดยประยุกต์ใช้รูปแบบประเมินของซิปป์ (CIPP Model)

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน รวมทั้งสิ้นจำนวน 479 คน ประกอบด้วย กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน ครูผู้สอน จำนวน 30 คน นักเรียน จำนวน 217 คน

และผู้ปกครอง จำนวน 217 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มีจำนวน 2 ฉบับ มีค่าความเชื่อมั่นรายฉบับเท่ากับ 0.93 และ 0.92 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูป คำนวณหาค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า

1. ด้านสภาวะแวดล้อม กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน และผู้ปกครอง เห็นว่า โดยรวมมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมด้านความสะอาด

แสงสว่าง เสียง และการถ่ายเทอากาศที่ดี รองลงมาคือ กิจกรรมของการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนานักเรียน และการกำหนดเป้าหมาย วิธีการดำเนินการและระยะเวลาดำเนินการมีความเหมาะสม และปฏิบัติได้จริง และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ โรงเรียนเป็นแหล่งบริการข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศที่ทันสมัยแก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน

2. ด้านปัจจัยเบื้องต้น กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน และผู้ปกครอง เห็นว่า โดยรวมมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุด สำหรับข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ โรงเรียนมีครูหรือบุคลากร

และคณะกรรมการดำเนินงาน ทำหน้าที่รับผิดชอบอย่างเพียงพอ รองลงมาคือ ครูผู้รับผิดชอบกิจกรรมตามโครงการเป็นผู้มีความรู้ ความสนใจ ความสามารถเหมาะสมและเพียงพอ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจต่อการดำเนินโครงการ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ชุมชนหรือหน่วยงานอื่น สนับสนุนงบประมาณ สื่อ อุปกรณ์ เพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

3. ด้านกระบวนการดำเนินงาน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน และผู้ปกครอง เห็นว่า โดยรวมมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุด สำหรับข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ คณะทำงานกิจกรรมมี

การประสานความร่วมมือระหว่างกัน รองลงมาคือ บุคลากรในโรงเรียน นักเรียน และชุมชน ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมและการพัฒนาการจัดการศึกษา และกำหนดบทบาทหน้าที่และผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ จัดทำเครื่องมือติดตามประเมินผลได้เหมาะกับกิจกรรมที่กำหนดไว้

4. ด้านผลที่ได้รับ กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง

เห็นว่า โดยรวมมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุด สำหรับข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ นักเรียนมีความอดทน ขยันหมั่นเพียรในการเรียนรู้กิจกรรมที่กำหนดในโครงการ รองลงมาคือ ผลการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ และนักเรียนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการเรียนรู้กิจกรรมที่กำหนดในโครงการ และนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน มีความพึงพอใจต่อการพัฒนาการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอพียงของโรงเรียนและชุมชน

5. ด้านผลกระทบ กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง

เห็นว่า โดยรวมมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุด สำหรับข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ผู้ปกครอง และชุมชน มีความพึงพอใจในการจัดการศึกษาของโรงเรียนมากขึ้นรองลงมาคือ โรงเรียน ผู้ปกครองและชุมชน

มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมากขึ้น และนักเรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนให้

มีความสามารถในการจัดการองค์ความรู้ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ นักเรียนมีพัฒนาการทางสติปัญญาและมีการคิดวิเคราะห์มากขึ้น

โพสต์โดย แพะ : [23 พ.ย. 2560 เวลา 12:51 น.]
อ่าน [4439] ไอพี : 1.1.131.239
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,469 ครั้ง
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล

เปิดอ่าน 100,718 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 13,304 ครั้ง
"แป้งพับ"ก๊อปปี้แบรนด์ดังสุดน่ากลัว
"แป้งพับ"ก๊อปปี้แบรนด์ดังสุดน่ากลัว

เปิดอ่าน 48,450 ครั้ง
สักวา
สักวา

เปิดอ่าน 9,391 ครั้ง
ฝึกหายใจให้หายง่วง
ฝึกหายใจให้หายง่วง

เปิดอ่าน 20,921 ครั้ง
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.6 โดย สสวท.
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.6 โดย สสวท.

เปิดอ่าน 107,951 ครั้ง
ฝึกพูด ภาษาอังกฤษ กับลูก ด้วยคำถาม คำสั่ง คำชม ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ฝึกพูด ภาษาอังกฤษ กับลูก ด้วยคำถาม คำสั่ง คำชม ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 17,046 ครั้ง
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์

เปิดอ่าน 8,542 ครั้ง
How To ทำวิทยฐานะแบบใหม่
How To ทำวิทยฐานะแบบใหม่

เปิดอ่าน 11,951 ครั้ง
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์

เปิดอ่าน 8,603 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

เปิดอ่าน 38,185 ครั้ง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง

เปิดอ่าน 15,147 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทย เเจ้ง ส่งไปรษณีย์ต้องแสดงบัตรประชาชน เริ่ม 8เม.ย.นี้
ไปรษณีย์ไทย เเจ้ง ส่งไปรษณีย์ต้องแสดงบัตรประชาชน เริ่ม 8เม.ย.นี้

เปิดอ่าน 54,680 ครั้ง
ประวัติ....ซานตาคลอส
ประวัติ....ซานตาคลอส

เปิดอ่าน 470,167 ครั้ง
Nouns ( คำนาม ) Types ( ชนิดของคำนาม )
Nouns ( คำนาม ) Types ( ชนิดของคำนาม )

เปิดอ่าน 96,773 ครั้ง
ทำไมหิงห้อยจึงมีแสง
ทำไมหิงห้อยจึงมีแสง
เปิดอ่าน 19,907 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558
เปิดอ่าน 14,330 ครั้ง
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.
เปิดอ่าน 55,799 ครั้ง
ดาวน์โหลด แนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง
ดาวน์โหลด แนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง
เปิดอ่าน 18,998 ครั้ง
นวดแก้ปวดไม่ใช้มือ ศาสตร์บำบัดล้านนา
นวดแก้ปวดไม่ใช้มือ ศาสตร์บำบัดล้านนา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ