บทคัดย่อ
การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียน ระหว่าง นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบแผนผังทางปัญญากับกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดธาตุทอง (เรือนเขียวสะอาด)
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนวัดธาตุทอง (เรือนเขียวสะอาด) จำนวน 2 ห้อง ห้องละ 36 คน รวมทั้งหมด 72 คน ที่มีความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษที่ใกล้เคียงกัน โดยผู้วิจัยอ้างอิงจากการวัดผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษในภาคเรียนที่ 1 จากนั้นใช้การสุ่มอย่างง่ายเพื่อหากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ได้ผลการสุ่มดังนี้
1.1 กลุ่มทดลอง (experimental group) คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 36 คน ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแผนผังทางปัญญา
1.2 กลุ่มควบคุม (control group) คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/ 2 จำนวน 36 คนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ
ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ทำการสอนด้วยตนเองทั้งกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม โดยดำเนินการสอนตามตารางเรียนปกติที่ทางโรงเรียนได้กำหนดไว้
วัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ
1) เปรียบเทียบผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียน ระหว่าง นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบแผนผังทางปัญญากับกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ 2) เปรียบเทียบความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนที่ใช้กิจกรรมแบบแผนผังทางปัญญากับกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดธาตุทอง (เรือนเขียวสะอาด) ในภาคเรียนที่ 2 ปี 2559 จำนวน 2 ห้อง ที่มีผลความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษที่ใกล้เคียงกัน โดยผู้วิจัยอ้างอิงจากการคัดเลือกนักเรียนและการจัดกลุ่มห้องเรียนของทางโรงเรียน ซึ่งได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 และห้อง 2 จำนวน 63 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 20 คน และกลุ่มควบคุม 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D. ) การทดสอบค่า ทีแบบเป็นอิสระต่อกัน ( t-test independent ) และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบกิจกรรมแผนผังทางปัญญา ซึ่งมีค่า IOC อยู่ที่ 0.65-1.00 (2) ) แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบกิจกรรมปกติมีค่า IOC อยู่ที่ 0.65-1.00 (3) แบบวัดผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจำนวน 30 ข้อ มีค่าความสอดคล้องระหว่าง 0.67-1.00 ค่าความยากง่ายรายข้อระหว่าง 0.28 0.80 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง 0.40 0.60 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.86
ผลการวิจัยพบว่า
(1) นักเรียนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมแผนผังทางปัญญามีผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
(2) การเรียนรู้แบบกิจกรรมแผนผังทางปัญญามีค่าความพึงพอใจสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05