|
|
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม โดยใช้กระบวนการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion)
ผู้รายงาน นางสาวสุภาพร ทันสี
ปีการศึกษา 2559
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และแนวทางในการพัฒนาระบบ การประกันคุณภาพภายในโรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม 2) เปรียบเทียบพัฒนาการของระบบการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนอนุบาลพรรณนานิคม 3) ศึกษาระดับประสิทธิภาพของมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม หลังการดำเนินการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายใน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ กลุ่มผู้ร่วมวิจัย ประกอบด้วย ศึกษานิเทศก์จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 จำนวน 3 คน บุคลากรโรงเรียนอนุบาลพรรณนานิคม จำนวน 43 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key-Informant) ได้แก่ บุคลากรโรงเรียนอนุบาลพรรณนานิคม จำนวน 43 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบประเมินระบบการประกันคุณภาพภายใน และแบบประเมินมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) สถิติเชิงบรรยาย และการทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม ไม่อิสระจากกัน (T-test Dependent Sample)
ผลการวิจัย พบว่า
1) ประสิทธิภาพของระบบประกันคุณภาพภายในโรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม ครั้งที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนครั้งที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และพบว่า 1.1) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาประสิทธิภาพระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา มีดังนี้ ควรให้ชุมชนและบุคคลภายนอกมีส่วนร่วม ควรให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายนอกสถานศึกษามีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานการศึกษาและ ตัวบ่งชี้ ควรนำแผนปฏิบัติการส่งหน่วยงานต้นสังกัด การจัดเรียงข้อมูลควรนำเสนอสภาพทั่วไปของโรงเรียน แผนที่ ทำเนียบผู้บริหาร โครงสร้างการบริหารงาน รายชื่อบุคลากร เป็นลำดับ รูปแบบการพิมพ์ แบบตัวอักษรและขนาดตัวอักษร ควรเป็นแบบเดียวกัน การนำเสนอข้อมูลสารสนเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถิติควรนำเสนอข้อมูลในรูปกราฟเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ควรมีการกำกับติดตามโครงการต่าง ๆ ว่าได้ดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่ เมื่อสิ้นสุดการดำเนินโครงการ / กิจกรรม ควรมีการทำ AAR (After Action Review) เพื่อวิเคราะห์ว่างานที่ตนเองได้รับมอบหมายดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถหรือมีปัญหาในการทำงานอย่างไรบ้าง ให้มีการบันทึกการนิเทศติดตามเป็นหลักฐาน ควรตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในเพิ่มอีก 1 ชุด นอกจากคณะกรรมการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา รูปภาพที่ปรากฏในรายงานประจำปี (SAR) ควรเป็นภาพสี คณะกรรมการที่รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษาดำเนินงานได้ดีมีคุณภาพ และจัดทำเอกสารสารสนเทศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในสารสนเทศได้จริง ควรดำเนินการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษาเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนมากขึ้น 1.2) สรุปผลการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) พบว่า 1) โรงเรียนจะต้องจัดทำโครงสร้างการบริหารที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา 2) โรงเรียนจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาให้มีอำนาจและหน้าที่ 3) โรงเรียนจะต้องจัดระบบสารสนเทศที่มาข้อมูลอย่างเพียงพอต่อการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา 4) โรงเรียนจะต้องกำหนดมาตรฐานการศึกษาระดับสถานศึกษาที่ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับสภาพผู้เรียน โรงเรียน ท้องถิ่น และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน 5) โรงเรียนจะต้องจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนโดยคำนึงถึงหลักการและครอบคลุม 6) โรงเรียนจะต้องดำเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน รวมทั้งมีการกำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ 7) ให้คณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาดำเนินการตรวจสอบ ทบทวนและรายงานการดำเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน สำหรับในการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาให้ใช้วิธีการที่หลากหลายและเหมาะสม 8) โรงเรียนจะต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนใน ทุกระดับช่วงชั้นที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด ได้รับการประเมินผลสัมฤทธิ์ในวิชาแกนหลัก และคุณลักษณะที่สำคัญด้วยเครื่องมือมาตรฐาน 9) โรงเรียนจะต้องจัดทำรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปี โดยระบุความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดในแบบพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน
2) ผลการเปรียบเทียบผลประเมินระบบการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนอนุบาลพรรณนานิคม ครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 พบว่า ประสิทธิภาพของระบบการประกันคุณภาพภายในแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) ประสิทธิภาพของมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลพรรณานิคมหลังการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายใน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในรายมาตรฐาน พบว่า อยู่ในระดับมากทั้ง 8 ด้าน โดยมาตรฐานที่ 4 มาตรฐานด้านอัตลักษณ์ของสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 2 มาตรฐานด้านการจัดการศึกษา และมาตรฐานที่ 5 มาตรฐานด้านมาตรการส่งเสริม ตามลำดับ และมาตรฐานที่ 3 มาตรฐานด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ มีค่าน้อยที่สุด เมื่อพิจารณาในรายมาตรฐาน พบว่า มาตรฐานที่ 12 สถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 9 คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล กับมาตรฐานที่ 10 สถานศึกษามีการจัดหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างรอบด้าน และมาตรฐานที่ 2 ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามลำดับ ส่วนมาตรฐานที่ 5 ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด
|
โพสต์โดย สุภาพร ทันสี : [10 พ.ย. 2560 เวลา 06:27 น.] อ่าน [5067] ไอพี : 61.90.39.211
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 139,625 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,829 ครั้ง
| เปิดอ่าน 62,753 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,635 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,511 ครั้ง
| เปิดอ่าน 62,057 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,386 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,365 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,079 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,665 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,335 ครั้ง
| เปิดอ่าน 45,446 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,188 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,224 ครั้ง
| เปิดอ่าน 96,210 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 31,208 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,180 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,367 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,551 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,593 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|