ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมความมีวินัยให้กับนักเรียน
ระดับประถมศึกษา
ผู้วิจัย ธนวัฒน์ ปรทานัง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองสุด(ประชาอุทิศ)
ปีที่พิมพ์ 2559
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมความมีวินัยให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษา : กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านคลองสุด(ประชาอุทิศ) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่ส่งเสริมความมีวินัยให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษา 2) เพื่อประเมินผลรูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่ส่งเสริมความมีวินัยให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษา มีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา โรงเรียนบ้านคลองสุด(ประชาอุทิศ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 จำนวน 69 คน และมีคณะผู้วิจัยร่วมหรือกลุ่มผู้ให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการเสริมสร้างวินัยสำหรับเด็กนักเรียนเพื่อนำมาจัดสร้างนวัตกรรมสำหรับการวิจัย อันได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนและผู้นำทางศาสนาชุมชนบ้านคลองสุด ต.หัวเสือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งวิธีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูล อันได้แก่ คณะครู บุคลากร กรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักเรียน โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์จากการสนทนากลุ่ม แล้วนำมาจัดสร้างนวัตกรรม ตามกรอบของการวิจัย ระยะที่ 2 เป็นการเก็บข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้นวัตกรรมในการวิจัย โดยเก็บข้อมูลตามตัวชี้วัดและคุณลักษณะพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้เรียนด้านความมีวินัย ตามโครงการโรงเรียนสุจริตโดยใช้วิธีการสังเกต การสัมภาษณ์ และระยะที่ 3 เป็นการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินผลจากการใช้นวัตกรรม อันได้แก่ การเก็บข้อมูลจากครู บุคลากรทางการศึกษา กรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักเรียน โดยใช้แบบสัมภาษณ์ และการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบสังเกต ผลปรากฏว่า
1. จากการพัฒนารูปแบบ CDTA เป็นรูปแบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมความมีวินัยของนักเรียนตามโครงการโรงเรียนสุจริต หลังจากนำมาใช้กับกลุ่มตัวอย่างสรุปผลจากแบบสังเกต ปรากฏว่า
1. ด้านวินัยต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม
1.1 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามข้อตกลง ข้อบังคับ กฎ กติกา ระเบียบ และ กฎหมายของครอบครัว โรงเรียน และสังคมได้ คิดเป็นร้อยละ 100
1.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน และระเบียบของห้องเรียนและโรงเรียน เช่น ส่งงานทุกครั้ง เข้าเรียนทุกชั่วโมง นักเรียนในแต่ละชั้นสามารถปฏิบัติได้ร้อยละ 100 ของนักเรียนในชั้นนั้น ๆ
1.3 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงของครอบครัวได้ คิดเป็นร้อยละ 100
2. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และสิทธิของตนเอง
2.1 นักเรียนตั้งใจเรียน และทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ โดยครูให้การชี้แนะหรือแนะนำบ้าง นักเรียนสามารถปฏิบัติได้ คิดเป็นร้อยละ 92
2.2 นักเรียนรู้สิทธิ และรู้จักรักษาสิทธิของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 87
2.3 นักเรียนรับผิดชอบในการกระทำของตนบางส่วน คิดเป็นร้อยละ 93
3. ความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคมและ ประเทศชาติ
3.1 นักเรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาข้อตกลงของห้อง คิดเป็นร้อยละ 96
3.2 นักเรียนรู้และเคารพสิทธิของเพื่อน ครู และผู้ปกครอง คิดเป็นร้อยละ 92
3.3 นักเรียนนำตัวอย่างพฤติกรรมที่ดี ของบุคคลตัวอย่าง บางส่วนไปประพฤติ ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน คิดเป็นร้อยละ 97
และสรุปผลจากแบบสอบถาม ปรากฏว่า คณะผู้วิจัยร่วมซึ่งเป็นกลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีความพึงพอใจต่อพฤติกรรมนักเรียนด้านความมีวินัยของนักเรียนตามโครงการโรงเรียนสุจริต แบ่งออกเป็นรายด้าน ดังนี้
1. ด้านนักเรียนมีวินัยต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ด้านนักเรียนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และสิทธิของตนเอง โดยรวมอยู่ในระดับมาก และข้อย่อยทุกข้ออยู่ในระดับมาก
3. ด้านนักเรียนความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคมและประเทศชาติ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ส่วนความคิดเห็นต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมความมีวินัยของนักเรียนตามโครงการโรงเรียนสุจริต โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด