ชื่อผลงาน รายงานการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความจากเรื่อง โดยใช้หนังสือส่งเสริม
การอ่านและแบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้รายงาน นางอมรรัตน์ ประสาเนตร
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านกุดหว้า อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การรายงานครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่านและแบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2) เพื่อศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความจากเรื่อง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านและแบบฝึก 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านและแบบฝึก และ 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ
หลังเรียน ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านและแบบฝึก ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนบ้านกุดหว้า อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 จำนวน 14 คน ซึ่งผู้รายงานเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เพราะเป็นชั้นที่ผู้รายงานเป็นครูประจำชั้นและจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 14 แผน หนังสือส่งเสริมการอ่าน จำนวน 9 เล่ม แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน 24 ชุด ๆ ละ 7 ข้อ แบบทดสอบประจำเรื่อง จำนวน 9 ฉบับ ๆ ละ 10 ข้อ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (p) ระหว่าง 0.45 ถึง 0.75 มีค่าอำนาจจำแนก (B) อยู่ระหว่าง 0.40 ถึง 0.84 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.760 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และตรวจสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test แบบ Dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสือส่งเสริมการอ่าน และแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากเรื่องที่สร้างขึ้น
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 94.19/88.10 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความจากเรื่องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หลังเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านและแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 96.17
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลหลังจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน และแบบฝึก
ทักษะการอ่านจับใจความจากเรื่อง เท่ากับ 0.8161 ซึ่งมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 81.61
4. นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า
ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากเรื่อง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านและแบบฝึก
เป็นอีกรูปแบบของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่นำเอานวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นตรงกับสภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน และเพื่อส่งเสริมพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะในด้าน
การอ่านจับใจความจากเรื่อง อีกทั้งยังส่งเสริมทักษะการฟัง การพูด การเขียน การดู ตลอดจนทักษะทางการคิดอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถนำความรู้ที่ได้รับ
ไปแสวงหาความรู้ในระดับสูงขึ้นและสามารถนำไปใช้สื่อสารในการดำรงชีวิตประจำวันได้
อย่างมีประสิทธิภาพ