ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วน

ชื่อผลงาน การประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน

โดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา2559

ผู้รายงาน นายไกรนรา กล่อมสุข

ผู้อำนวยการโรงเรียนคลองแดนวิทยา

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2559

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) การมีส่วนร่วมของผุ้เกี่ยวข้องการดำเนินโครงการ 2) ผลการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน 3) ความพึงพอใจของผุ้เกี่ยวข้องในโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยศึกษาจากกลุ่มเป้าหมายได้แก่ กลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 118 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองจำนวน 110 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน และประชากรครู จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ จำนวน 5 ฉบับ และแบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริงเกี่ยวกับผลการปรับพฤติกรรมของนักเรียน จำนวน 1 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับอยู่ระหว่าง 0.915-0.983

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยาปีการศึกษา 2559 ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม (Context) ของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า ปีการศึกษา 2559 คณะกรรมการสถานศึกษามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.82, x̄ = 0.19) มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน และรองลงมาคือ ครูมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D. = 0.44) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 พบว่า ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 พบว่าผลประเมินด้านกระบวนการ (Process) ของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครูและผู้ปกครอง โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64, S.D. = 0.51) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.33, S.D. = 0.67) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.33, = 0.47) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกตัวชี้วัดที่ประเมิน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต ได้แก่

4.1 การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 พบว่าผลการประเมินด้านการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่ากลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษามีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.84, S.D. =0.18 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มครูอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64,S.D. = 0.51) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก ( = 4.16, = 0.65) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนคลองแดนวิทยาทั้งพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ที่ไม่รุนแรง และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงโดยรวม ปีการศึกษา 2558 จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 24.31 ปีการศึกษา 2559 จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 10.31 ลดลง 18 คน คิดเป็นร้อยละ 52.00 และ เมื่อพิจารณาแต่ละพฤติกรรมพบว่า พฤติกรรมการทิ้งขยะไม่ลงถังลดลงมากที่สุด ร้อยละ14.00 รองลงมาคือ ขาดเรียนลดลงร้อยละ 12 ส่วนพฤติกรรมทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนลดลงน้อยที่สุด ร้อยละ 0.00

4.3 ความพึงพอใจของโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 สรุปผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการ การป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 5.00,S.D. =0.00) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ การประเมิน รองลงมาคือ ครู อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75 ,S.D. = 0.43) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก ( = 4.38, = 0.66) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรจัดโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของ

นักเรียน อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพของผู้เรียน โดยมีการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลงานที่ประสบความสำเร็จ

2. ควรส่งเสริมให้ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานองค์ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมใน

การจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียนได้อย่างยั่งยืนเพื่อก่อให้เกิดพลังในการทำงานเพิ่มขึ้น

ข้อเสนอแนะในการวิจัย/ประเมินครั้งต่อไป

ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางในการประเมินโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนในรูปแบบวิธีการอื่นที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน และศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการตามบริบทของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานตามโครงการต่อไป

โพสต์โดย แจ๊ค : [30 ต.ค. 2560 เวลา 18:11 น.]
อ่าน [66228] ไอพี : 171.97.242.67
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 55,957 ครั้ง
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 12,688 ครั้ง
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน

เปิดอ่าน 17,145 ครั้ง
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก

เปิดอ่าน 20,492 ครั้ง
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก

เปิดอ่าน 1,923 ครั้ง
ภาวะหมดไฟในการทำงาน ภัยเงียบที่หลายคนมักมองข้าม
ภาวะหมดไฟในการทำงาน ภัยเงียบที่หลายคนมักมองข้าม

เปิดอ่าน 13,733 ครั้ง
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ

เปิดอ่าน 13,735 ครั้ง
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี

เปิดอ่าน 12,469 ครั้ง
วิธีไหว้แก้ชงต่อเทพเจ้า ให้ถูกต้อง-ถูกองค์
วิธีไหว้แก้ชงต่อเทพเจ้า ให้ถูกต้อง-ถูกองค์

เปิดอ่าน 11,076 ครั้ง
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม

เปิดอ่าน 38,945 ครั้ง
การวิ่งเพื่อสุขภาพ (สุขศึกษา)
การวิ่งเพื่อสุขภาพ (สุขศึกษา)

เปิดอ่าน 14,427 ครั้ง
สีสันกับสุขภาพจิต
สีสันกับสุขภาพจิต

เปิดอ่าน 38,275 ครั้ง
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน

เปิดอ่าน 39,791 ครั้ง
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ

เปิดอ่าน 15,266 ครั้ง
กินผักตามฤดู 12 เดือน
กินผักตามฤดู 12 เดือน

เปิดอ่าน 9,562 ครั้ง
คนอดนอนกลับยิ่งทำให้กินอาหารจุขึ้น
คนอดนอนกลับยิ่งทำให้กินอาหารจุขึ้น

เปิดอ่าน 40,195 ครั้ง
วิธีเก็บ "ผักชี-รากผักชี" ใช้ได้นานขึ้น
วิธีเก็บ "ผักชี-รากผักชี" ใช้ได้นานขึ้น
เปิดอ่าน 33,429 ครั้ง
ประเภทและอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียน
ประเภทและอัตราเงินบำรุงการศึกษาและค่าเล่าเรียน
เปิดอ่าน 48,455 ครั้ง
มารู้จักชื่อและหลักเกณฑ์การกำหนดเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทหารกันบ้าง โดย พล.ท.ทวี แจ่มจำรัส
มารู้จักชื่อและหลักเกณฑ์การกำหนดเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทหารกันบ้าง โดย พล.ท.ทวี แจ่มจำรัส
เปิดอ่าน 12,017 ครั้ง
การพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก
การพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก
เปิดอ่าน 23,328 ครั้ง
ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก
ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ