ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความพึงพอใจ กลุ่มสาระการเรียนรู

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความพึงพอใจ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ผู้ศึกษา นางสุวรรณี สิมลา

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนท่าแร่วิทยา อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1

ปีที่รายงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา ชุดพลังงานแสง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา ชุดพลังงานแสง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา ชุดพลังงานแสง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา ชุดพลังงานแสง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนท่าแร่วิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 จำนวน 25 คนได้มาโดยการเลือกแบบจำเพาะเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ในการศึกษาประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่ให้ผู้เชี่ยวชาญหาค่า IOC แล้ว 1 ฉบับแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา ชุดพลังงานแสง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษาเป็นครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และสอนวิชาวิทยาศาสตร์ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ใช้เวลาจำนวน 27 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วยสถิติพื้นฐาน โดยการหาค่าเฉลี่ย ¯((X)) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) สถิติที่ใช้ในการตรวจสอบเครื่องมือได้แก่ การหาค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมือ โดยกาคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) หาค่าความยากง่าย (P) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ โดยใช้สูตรของโลเวท ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา โดยการหาค่า E1 และ E2 และสถิติที่ใช้ตรวจสอบสมมติฐานโดยการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียนของนักเรียน ด้วยการสอบที (t-test)

ผลการศึกษา พบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษาที่สร้างขึ้น ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.73 ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.42/84.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 84.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจ หลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แนวสะเต็มศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.81 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.4 อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย สุวรรณี สิมลา : [26 ต.ค. 2560 เวลา 23:42 น.]
อ่าน [4339] ไอพี : 184.22.124.217
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 27,429 ครั้ง
หาที่ฝึกงานยังไงให้โดนและมีโอกาสได้ทำงานต่อ
หาที่ฝึกงานยังไงให้โดนและมีโอกาสได้ทำงานต่อ

เปิดอ่าน 25,924 ครั้ง
เลิกครู 5 ปี…แก้ทั้งระบบครบวงจร : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
เลิกครู 5 ปี…แก้ทั้งระบบครบวงจร : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์

เปิดอ่าน 25,395 ครั้ง
"คาวตอง"สมุนไพรไทยยาปราบไข้หวัด 2009
"คาวตอง"สมุนไพรไทยยาปราบไข้หวัด 2009

เปิดอ่าน 119,810 ครั้ง
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย

เปิดอ่าน 8,722 ครั้ง
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้

เปิดอ่าน 10,160 ครั้ง
ภาษาอังกฤษไม่แข็ง
ภาษาอังกฤษไม่แข็ง

เปิดอ่าน 7,322 ครั้ง
ธอส.เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี พิมพ์เขียว แบบ "บ้านรักษ์โลก" งบไม่เกิน 1-2 ล้าน
ธอส.เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี พิมพ์เขียว แบบ "บ้านรักษ์โลก" งบไม่เกิน 1-2 ล้าน

เปิดอ่าน 8,887 ครั้ง
ขนมปังป้องกันผู้ชายเป็นหมันได้
ขนมปังป้องกันผู้ชายเป็นหมันได้

เปิดอ่าน 79,083 ครั้ง
ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา
ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา

เปิดอ่าน 57,363 ครั้ง
เกลือ
เกลือ

เปิดอ่าน 19,717 ครั้ง
เคล็ดลับการเลือกสีผมจากสีผิว
เคล็ดลับการเลือกสีผมจากสีผิว

เปิดอ่าน 17,934 ครั้ง
จิตรกรรมและศาสนา
จิตรกรรมและศาสนา

เปิดอ่าน 13,757 ครั้ง
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ

เปิดอ่าน 28,597 ครั้ง
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก

เปิดอ่าน 21,218 ครั้ง
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!

เปิดอ่าน 35,277 ครั้ง
แนวทางการคัดเลือกหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับกระทรวงฯ
แนวทางการคัดเลือกหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับกระทรวงฯ
เปิดอ่าน 11,082 ครั้ง
ชมคลิปที่ แอ๊ด คาราบาว จัดเอ็มวี "นาวารัฐบุรุษ" ให้บิ๊กตู่
ชมคลิปที่ แอ๊ด คาราบาว จัดเอ็มวี "นาวารัฐบุรุษ" ให้บิ๊กตู่
เปิดอ่าน 12,327 ครั้ง
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
เปิดอ่าน 26,111 ครั้ง
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 1...ไหว้ครู
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 1...ไหว้ครู
เปิดอ่าน 35,877 ครั้ง
น้ำข้าวกล้องงอก ของดีทำง่าย
น้ำข้าวกล้องงอก ของดีทำง่าย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ