ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

พัฒนารูปแบบวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้า ที่ส่ง

ผู้วิจัย นายปรีชา พูลลาภ

หน่วยงาน โรงเรียนนครนนท์วิทยา 2 วัดทินกรนิมิต ปีที่พิมพ์ 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย (1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบวิธีสอนแบบสืบเสาะ หาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้า ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

(2) เพื่อประเมินผลของรูปแบบวิธีสอนที่พัฒนาขึ้น 2.1) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในเชิงทฤษฏีของรูปแบบวิธีสอน 2.2) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติการของรูปแบบการสอน

2.2.1) หาประสิทธิภาพของรูปแบบวิธีสอนที่พัฒนาขึ้น 2.2.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2.2.3) เปรียบเทียบคะแนนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นระหว่างก่อนเรียนและ หลังเรียน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ จำนวน 7 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 2 วัดทินกรนิมิต อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี จำนวน 22 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้า ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ขั้นบูรณาการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ไฟฟ้า ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.81 และ มีค่าความเชื่อมั่น (rcc) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ 4) แบบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากรายข้อ (p) ตั้งแต่ 0.43 - 0.80 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) ตั้งแต่ 0.20 - 0.73 ค่าความเชื่อมั่น (rtt) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed-method Methodology) 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 สร้างและพัฒนารูปแบบการสอนโดยการสังเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ ขั้นตอนที่ 2 ประเมินรูปแบบการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญและทดลองใช้ในสถานการณ์จริง หาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนตามเกณฑ์ 80/80 หาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และ t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. รูปแบบวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

เรื่อง ไฟฟ้า ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี 5 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการของรูปแบบการสอน

2) จุดประสงค์ 3) สาระและเนื้อหา 4) กิจกรรมและขั้นตอนการสอนตามแนววิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ดังนี้ ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม (Elicitation Phase) ขั้นเร้าความสนใจ (Engagement Phase) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration Phase) ขั้นอธิบาย (Explanation Phase) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration Phase) ขั้นประเมินผล (Evaluation Phase) ขั้นนำความรู้ไปใช้ (Extension Phase)

2. รูปแบบการสอนเชิงทฤษฏี มีความเหมาะสมและความสอดคล้องขององค์ประกอบ อยู่ในระดับมาก และแผนการเรียนรู้ที่พัฒนาตามรูปแบบการสอน มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด

3. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่องไฟฟ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 83.10/84.43 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

4. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น

เรื่อง ไฟฟ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่วิเคราะห์จากคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีค่าเท่ากับ 0.7495 นั่นคือ นักเรียนมีความก้าวหน้าในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 74.95

5. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้า ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รูปแบบวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น มีคะแนนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

โพสต์โดย ชา : [24 ต.ค. 2560 เวลา 19:57 น.]
อ่าน [67425] ไอพี : 49.49.250.170
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,744 ครั้ง
กินหมึกสด หมึกดูดปาก ฮาตรึม
กินหมึกสด หมึกดูดปาก ฮาตรึม

เปิดอ่าน 8,810 ครั้ง
คัดเลือกคนจากสถาบัน
คัดเลือกคนจากสถาบัน

เปิดอ่าน 13,035 ครั้ง
ลิงกอริลลาเป็นต้นตอ เชื้อไวรัสโรคเอดส์เพิ่มขึ้นอีกสายพันธุ์หนึ่ง
ลิงกอริลลาเป็นต้นตอ เชื้อไวรัสโรคเอดส์เพิ่มขึ้นอีกสายพันธุ์หนึ่ง

เปิดอ่าน 44,521 ครั้ง
กฎหมายตราสามดวง
กฎหมายตราสามดวง

เปิดอ่าน 98,290 ครั้ง
ตัวอย่างการแต่งกายของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
ตัวอย่างการแต่งกายของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ

เปิดอ่าน 23,912 ครั้ง
ปลูกต้นไม้เหมาะกับทิศ
ปลูกต้นไม้เหมาะกับทิศ

เปิดอ่าน 17,443 ครั้ง
เจอดาว "โลกหมายเลข 2" นาซ่าชี้คล้ายโลกเรามากๆ
เจอดาว "โลกหมายเลข 2" นาซ่าชี้คล้ายโลกเรามากๆ

เปิดอ่าน 10,719 ครั้ง
ผลิต ใช้ และพัฒนาครูอย่างไร จึงจะนำไปสู่การเพิ่มคุณภาพผู้เรียน
ผลิต ใช้ และพัฒนาครูอย่างไร จึงจะนำไปสู่การเพิ่มคุณภาพผู้เรียน

เปิดอ่าน 13,409 ครั้ง
รู้ไว้ไม่เสียหาย! ตัวเลข "เฮง-ชง" ประจำปีวอก
รู้ไว้ไม่เสียหาย! ตัวเลข "เฮง-ชง" ประจำปีวอก

เปิดอ่าน 13,745 ครั้ง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง

เปิดอ่าน 147,075 ครั้ง
โปรแกรมคำนวณค่า T-Score
โปรแกรมคำนวณค่า T-Score

เปิดอ่าน 20,084 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 52,720 ครั้ง
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี

เปิดอ่าน 11,788 ครั้ง
ชวนรู้เรื่อง "มะเร็งลำไส้"
ชวนรู้เรื่อง "มะเร็งลำไส้"

เปิดอ่าน 10,339 ครั้ง
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5

เปิดอ่าน 7,861 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
เปิดอ่าน 26,763 ครั้ง
รู้หรือเปล่าว่าปลาร้าเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
รู้หรือเปล่าว่าปลาร้าเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
เปิดอ่าน 10,879 ครั้ง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง
เปิดอ่าน 57,892 ครั้ง
ดวงอาทิตย์ ส่องแสงได้อย่างไร
ดวงอาทิตย์ ส่องแสงได้อย่างไร
เปิดอ่าน 401 ครั้ง
กินอะไรแก้อาการแฮงค์ แนะนำ 5 สิ่งหากินง่าย ฟื้นตัวไว
กินอะไรแก้อาการแฮงค์ แนะนำ 5 สิ่งหากินง่าย ฟื้นตัวไว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ