รายงานการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มี จุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาเอกสารประกอบ
การสอนกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน
ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1 หลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการสอนกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
3) ประเมินความพึงพอใจของลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียน โดยใช้เอกสาร
ประกอบการสอนกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มตัวอย่างประกอบไปด้วย ลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านท่าเชียงเครือ อำเภอเซกา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ประจำปีการศึกษา 2559 จำนวน
14 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รูปแบบการทดลองใช้เป็นแบบ
กลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลัง (The One Group Pretest-Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ เอกสารประกอบการสอนกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบประเมินความพึงพอใจของลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า t-test (t-test Dependent Sample)
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. เอกสารประกอบการสอนกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โดยภาพรวมมีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.39/87.91 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
เมื่อพิจารณาเป็นรายเล่ม พบว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80
ทุกเล่ม
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบ
การสอนจัดกิจกรรมลูกเสือสำรอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย
คือ ด้านเจตคติ ด้านทักษะ และด้านความรู้