ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียน
บ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1
ปีการศึกษา 2559
ผู้วิจัย นางสาวปราณีต รามหนู
ปีการศึกษา 2559
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
การรายงานการประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียน
บ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ รายงานการประเมินผลการดำเนินงานใน 4 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ประชากรที่ใช้ในการประเมิน จำนวน 237 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ครู จำนวน 10 คน ผู้ปกครอง จำนวน 100 คน นักเรียน จำนวน 120 คน ในปีการศึกษา 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น จำนวน 4 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินปรากฏผลดังนี้
1. การประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ในด้านบริบท
ผลการประเมินตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู โดยภาพรวมพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการสามารถปฏิบัติได้ รองลงมา คือ การกำหนดเป้าหมายของโครงการสอดคล้องกับปัญหาและวัตถุประสงค์ของโครงการ และอันดับที่ 3 คือ การกำหนดหลักการของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายของโรงเรียน
2. การประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ในด้านปัจจัยนำเข้าผลการประเมินตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู โดยภาพรวมพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ บุคลากรที่จัดโครงการมีความรู้ในเรื่องการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน รองลงมา คือ จำนวนบุคลากรที่จัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมีความเพียงพอและเหมาะสม และอันดับที่ 3 คือ บุคลากรที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนโยบาย เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
3. การประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ในด้านกระบวนการผลการประเมินตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู โดยภาพรวมพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านที่หลากหลายรูปแบบด้วยความประหยัด รองลงมา คือ ผู้บริหาร ครู นักเรียนและผู้ปกครองให้การส่งเสริมและสนับสนุนในการดำเนินงานทุกๆ ด้าน และอันดับที่ 3 คือ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านที่เร้าความสนใจและเหมาะสมกับวัย
4. การประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ในด้านผลผลิต ดังนี้
4.1 การประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ใน 5 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมเล่านิทานเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน กิจกรรมจัดนิทรรศการเผยแพร่ข่าวสาร ความรู้ กิจกรรมภาษาไทย ภาษาอังกฤษวันละคำ กิจกรรมยอดนักอ่านและกิจกรรมวันสำคัญ ผลการประเมินตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู นักเรียนและผู้ปกครอง โดยภาพรวมพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก มีความเห็นในกิจกรรมโดยเรียงจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ กิจกรรมจัดนิทรรศการเผยแพร่ข่าวสาร ความรู้ กิจกรรมเล่านิทานเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน กิจกรรมภาษาไทย ภาษาอังกฤษวันละคำ กิจกรรมยอดนักอ่านและกิจกรรมวันสำคัญ
4.2 การประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ผลการประเมินตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู นักเรียนและผู้ปกครอง โดยภาพรวมพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ ให้ความสำคัญของการอ่าน รองลงมา คือ สนใจการอ่าน และอันดับที่ 3 คือ ถือเอาการอ่านเป็นกิจวัตรประจำวัน
4.3 การประเมินความพึงพอใจต่อการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2559 ผลการประเมินตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู โดยภาพรวมพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ กิจกรรมตรงกับความต้องการ รองลงมา คือ ความพึงพอใจต่อกิจกรรมจัดนิทรรศการเผยแพร่ข่าวสาร ความรู้ และอันดับที่ 3 คือ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ
4.4 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2558 กับ 2559 มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 10.43