เรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน นายประยุทธ์ ไทรย้อยสกุลเลิศ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนแกลง "วิทยสถาวร" อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ คือ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะ การแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อศึกษาความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแกลง "วิทยสถาวร" สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 50 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เฉพาะนักเรียนที่รับผิดชอบสอน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ จำนวน 10 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียนใช้วัดทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR20) เท่ากับ 0.797 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียน จำนวน 20 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยกาหนดระดับความพึงพอใจ 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.72 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย (Arithmetic Mean : ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.) ค่าร้อยละ (Percentage : P) หาประสิทธิผล โดยใช้สูตรดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I.) และทดสอบสมมติฐานโดยใช้การหาค่า t
(t-test dependent sample)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 10 เล่ม มีประสิทธิภาพกระบวนการ ( ) เท่ากับ 86.62 และประสิทธิภาพผลลัพธ์ ( ) เท่ากับ 84.73 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.62/84.73 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 ที่กาหนดไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมทั้ง 10 เล่ม พบว่านักเรียนมีคะแนนความก้าวหน้าเท่ากับ 0.7166 หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้น 0.7166 คิดเป็นร้อยละ 71.66 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ว่า แบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้นมีประสิทธิผลช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้จริง
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
โดนใช้แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชั้น 10 เล่ม พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 มีคะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2/1 ที่มีต่อการทดสอบจัด
การเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 10 เล่ม พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจเป็นไปในทางบวก โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.61 , S.D. = 0.64)