ชื่อเรื่อง : รูปแบบการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้วยการบริหารคุณภาพเชิงระบบ
ของโรงเรียนบ้านคลองอุดม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 2
ผู้วิจัย : นายทวีศักดิ์ ถึกไทย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้าน กม. 80
คำสำคัญ : รูปแบบ ระบบประกันคุณภาพการศึกษา การบริหารคุณภาพเชิงระบบ
ปีที่ทำวิจัย : 2558
บทคัดย่อวิจัย
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 4 ประการคือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาและระดับ การปฏิบัติของการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านคลองอุดมก่อนการพัฒนา 2) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้วยการบริหารคุณภาพเชิงระบบ 3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระบบประกันคุณภาพโดยใช้รูปแบบการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้วยการบริหารคุณภาพเชิงระบบ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในผลการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้รูปแบบการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้วยการบริหารคุณภาพเชิงระบบ โดยประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านคลองอุดม ระหว่างปีการศึกษา 2556 - 2558 จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 11 คน 2) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 คน 3) คณะกรรมการจากเขตพื้นที่การศึกษาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบระบบประกันคุณภาพภายในของโรงเรียน จำนวน 5 คน ใช้กลุ่มประชากรเป็นผู้ให้ข้อมูล และ 4) ผู้แทนผู้ปกครองใช้การเลือกอย่างเจาะจงจากกลุ่มประชากรมาเป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสรุปผลการศึกษาเอกสาร แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 3 ชุด แบบบันทึกข้อมูล การสนทนากลุ่ม และแบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ
ผลการวิจัยวัตถุประสงค์ที่ 1 ผลการศึกษาวิเคราะห์เอกสาร พบว่า สภาพปัจจุบันปัญหา ในการดำเนินการระบบประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) โรงเรียน มีทรัพยากร บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และระบบเทคโนโลยีที่ยังไม่เพียงพอและเหมาะสม แต่จุดเด่น คือ ชุมชนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับโรงเรียน ด้านกระบวนการ (Process) การวางแผนการระบบการประกันคุณภาพยังไม่ชัดเจน การนิเทศกำกับติดตามไม่สม่ำเสมอ การสรุปรายงานผลข้อมูลยังไม่ครอบคลุมมาตรฐาน ผลสัมฤทธิ์และคุณลักษณะผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามาตรฐาน ด้านผลผลิต (Output) คุณภาพ
การจัดการศึกษายังต้องได้รับการพัฒนาทั้งในด้านผู้เรียน ครูผู้สอน ระบบการบริหารจัดการ อาคารสถานที่สิ่งแวดล้อมและแหล่งเรียนรู้ ด้านผลกระทบ (Outcome) บุคลากรยังไม่มีความเข้าใจชัดเจนในเรื่องความรู้ความเข้าใจในการดำเนินการระบบประกันคุณภาพทำให้มีทัศนคติเชิงลบต่อการประกันคุณภาพการศึกษา
ข้อดี คือ ครู ผู้บริหาร นักเรียนและชุมชนพร้อมให้ความร่วมมือในการรับการเปลี่ยนแปลงและร่วม
พัฒนางาน ผลการวิเคราะห์ระดับการปฏิบัติของการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษาของ
โรงเรียนบ้านคลองอุดม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 2 ก่อนการพัฒนา พบว่า ระดับการปฏิบัติก่อนการพัฒนาโดยภาพรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อจำแนก รายด้าน พบว่า ด้านการควบคุมคุณภาพ (Quality Control ) โดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยระดับการปฏิบัติต่ำตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ 1) โรงเรียนมี
การวางแผนระบบประกันคุณภาพการศึกษาที่ชัดเจน 2) กำหนดวัตถุประสงค์ของการทำงานระบบ
ประกันคุณภาพชัดเจน 3) นำผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาเป็นข้อมูลในการวางแผนการดำเนินงาน 4) มีโครงการอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้ระบบประกันคุณภาพการศึกษา
5) ได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษา 6) กำหนดรูปแบบเอกสารที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลตามมาตรฐานการประกันคุณภาพ 7) โรงเรียนเปิดโอกาสให้ท่าน มีส่วนร่วมในการวางแผนระบบประกันคุณภาพ และ 8) มีการสร้างความตระหนักและให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบประกันคุณภาพ ด้านการตรวจสอบคุณภาพ (Quality Audit) โดยภาพรวมมีระดับ
การปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยระดับการปฏิบัติต่ำตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ 1) ผู้บริหารมีการนิเทศติดตามการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ 2) ส่งเสริมการอบรมศึกษาดูงานเพื่อหาข้อมูลมาปรับปรุงพัฒนางาน 3) มีการนำผลการปฏิบัติงานมาอภิปรายเพื่อหาแนวทางปรับปรุงพัฒนา 4) กำหนดเกณฑ์และตัวชี้วัดคุณภาพแต่ละมาตรฐานที่ชัดเจน 5) มีการจัดเก็บเอกสารตามมาตรฐานการประเมินคุณภาพเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ 6) มีการทำรายงานสรุปผลการดำเนินกิจกรรมทุกโครงการ 7) จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานของสถานศึกษาให้ต้นสังกัดตรวจสอบ 8) หน่วยงานต้นสังกัดมานิเทศกำกับติดตามให้คำแนะนำสม่ำเสมอ 9) มีผู้ให้คำปรึกษาเมื่อมีปัญหา ในการปฏิบัติงาน และ 10) มีการสำรวจความคิดเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมของโรงเรียน ด้านการประเมินคุณภาพ (Quality Assessment) โดยภาพรวมมีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยระดับการปฏิบัติต่ำตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ 1) มีการเทียบเคียง
ผลการปฏิบัติงานในปีปัจจุบันกับปีที่ผ่านมา 2) นำข้อเสนอแนะจากการประเมินของหน่วยงานต้นสังกัด
มาเป็นแนวทางพัฒนา 3) แจ้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้ทราบผลการพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง 4) โรงเรียนจัดประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อรายงานผล
การปฏิบัติงานสม่ำเสมอ 5) โรงเรียนจัดประชุมผู้ปกครองชั้นเรียนทุกภาคเรียน 6) หลังเสร็จการจัดกิจกรรมตามโครงการในแผนปฏิบัติการมีการประชุมครูเพื่อร่วมอภิปรายผลการปฏิบัติงาน 7) นักเรียนได้รับ การสนับสนุนให้เข้ารับการแข่งขันทดสอบด้านทักษะวิชาการจากหน่วยงานภายนอก 8) ครูจัดทำ
นวัตกรรมและงานวิจัยเข้ารับการประเมินจากหน่วยงานต่าง ๆ 9) มีผู้มาศึกษาดูงานสถานศึกษาแล้วให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนา และ 10) มีการประเมินผลการพัฒนางานตามมาตรฐาน
การประกันคุณภาพ
ผลการวิจัยวัตถุประสงค์ที่ 2 รูปแบบการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้วยการบริหาร
คุณภาพเชิงระบบที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลและผ่านการประเมินความเป็นไปได้ในการใช้ดำเนินการ
โดยการสนทนากลุ่มและประเมินความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย 6 ขั้นตอน CANSET Model คือ 1) รวบรวมข้อมูล (Collect Data) 2) วิเคราะห์และจำแนกข้อมูล (Analysis and Identify) 3) จัดหา เครือข่ายร่วมพัฒนา (Network Development) 4) จัดระบบงาน (Setting System) 5) ประเมินผลภาพรวม การพัฒนา (Evaluation) 6) รณรงค์ให้เกิดความยั่งยืน (Try to keep as a schools culture)
ผลการวิจัยวัตถุประสงค์ที่ 3 ผลการพัฒนาโดยใช้รูปแบบการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้วยการบริหารคุณภาพเชิงระบบของโรงเรียนบ้านคลองอุดม พบว่า โดยภาพรวมมีผลการพัฒนา
อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการจัดทำและวางแผน โดยภาพรวมมีผลการพัฒนาอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นที่มีผลการพัฒนามากที่สุด ได้แก่ 1) โรงเรียนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการระบบประกันคุณภาพที่ครอบคลุมทุกมาตรฐาน 2) โรงเรียนมีโครงการพัฒนาระบบประกัน
คุณภาพอยู่ในแผนปฏิบัติการประจำปี 3) กิจกรรมของระบบประกันคุณภาพสอดคล้องกับมาตรฐานและ
ตัวบ่งชี้การประกัน 4) มีปฏิทินการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเป็นขั้นตอน 5) มีเกณฑ์การประเมินผลการพัฒนา
ที่ชัดเจน 6) โรงเรียนมีการประชุมระดมความคิดเพื่อวางแผนดำเนินการระบบประกันคุณภาพ และ 7) บุคลากรมีความรู้เข้าใจในมาตรฐานและวิธีการประเมินคุณภาพการศึกษา ด้านการลงมือปฏิบัติ โดยภาพรวมมีผลการพัฒนาอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นที่มีผลการพัฒนามากที่สุด ได้แก่ 1) ผู้บริหาร
ร่วมให้คำแนะนำและแก้ปัญหาการทำงาน 2) บุคลากรทำงานระบบประกันคุณภาพเป็นคู่ขนานกับงาน
การจัดการเรียนการสอนปกติ 3) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญประสบ
ความสำเร็จ 4) มีกระบวนการส่งเสริมผู้เรียนตามมาตรฐานคุณภาพผู้เรียน 5) ผู้รับผิดชอบมาตรฐาน
แต่ละด้านจัดกิจกรรมตามปฏิทินการปฏิบัติงาน 6) หลังดำเนินกิจกรรมทุกครั้งมีการสรุปผล
การดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานการประกันคุณภาพ 7) มีการเสริมแรงทางบวกเพื่อให้เกิด
กำลังใจในการพัฒนางาน และ 8) โรงเรียนมีเครือข่ายความร่วมมือพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงาน
ด้านการตรวจสอบประเมินผล โดยภาพรวมมีผลการพัฒนาอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นที่มีผล
การพัฒนามากที่สุด ได้แก่ 1) โรงเรียนมีการนิเทศกำกับติดตามระบบประกันคุณภาพสม่ำเสมอ
2) ผู้บริหารตรวจสอบข้อมูลระบบประกันคุณภาพให้เป็นปัจจุบัน 3) มีการประเมินผลและรายงาน
ผลการจัดกิจกรรมตามมาตรฐานการประกันคุณภาพทุกกิจกรรม 4) บุคลากรแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการ
ทำงานในแต่ละมาตรฐานเสมอ 5) จัดทำแฟ้มสะสมผลงานเพื่อรายงานผลการจัดกิจกรรมตามแผน
ปฏิบัติการประจำปีอย่างเป็นระบบ 6) ท่านสามารถสืบค้นข้อมูลระบบประกันคุณภาพได้จากระบบ
ฐานข้อมูลของโรงเรียน และ 7) มีการประชาสัมพันธ์ผลการพัฒนาคุณภาพสู่หน่วยงานภายนอก
ด้านการนำผลการประเมินย้อนกลับไปปรับปรุงแก้ไข การทำงาน โดยภาพรวมมีผลการพัฒนาอยู่ใน
ระดับมาก โดยประเด็นที่มีผลการพัฒนามากที่สุด ได้แก่ 1) มีการประชุมสรุปผลงานการดำเนินงาน
โครงการระบบประกันคุณภาพเมื่อสิ้นสุดภาคเรียน 2) ท่านมีส่วนร่วมในการเสนอข้อมูลเพื่อพัฒนา
ระบบประกันคุณภาพของโรงเรียน 3) ปรับปรุงระบบประกันคุณภาพตามข้อเสนอแนะการประเมิน
คุณภาพภายนอกรอบสาม 4) นักเรียนได้รับการพัฒนาศักยภาพ จากการพัฒนาระบบประกันคุณภาพ
5) ผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามดีกว่าผลการประเมินรอบสอง 6) นักเรียนผู้ปกครองและ
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพอใจกับคุณภาพของโรงเรียน 7) โรงเรียนมีวิธีปฏิบัติงานที่เป็นแบบอย่างได้ และ
8) มีหน่วยงานมาศึกษาดูงานการพัฒนามาตรฐานของโรงเรียน
ผลการวิจัยวัตถุประสงค์ที่ 4 ความพึงพอใจในผลการพัฒนาโดยใช้รูปแบบการพัฒนาระบบ
ประกันคุณภาพการศึกษาด้วยการบริหารคุณภาพเชิงระบบของโรงเรียนบ้านคลองอุดม พบว่า ผลความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านผลการจัดการศึกษา
โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีความพึงพอใจมากที่สุดในประเด็น 1) โรงเรียนจัดการศึกษา
ได้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและชุมชน 2) โรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสร้างสรรค์
และมีคุณภาพขึ้น 3) โรงเรียนได้รับการพัฒนาตามพันธกิจที่กำหนดไว้ 4) นักเรียนกล้าแสดงออกใน
สิ่งที่สร้างสรรค์ 5) นักเรียนมีสุขภาพ พลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงเหมาะสมกับวัย 6) นักเรียนอ่านออก
เขียนได้เหมาะสมกับวัย และ 7) นักเรียนมีคุณลักษณะนิสัยที่ทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความสุข
ด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีความพึงพอใจมากที่สุดในประเด็น 1) ครูมีความสามารถใน การจัดการเรียนการสอนให้เด็กมีความรู้ 2) ครูจัดกิจกรรมเสริมให้นักเรียนเรียนรู้อย่างสนุกสนาน 3) ครูมีความรู้ความสามารถด้านการวิจัย
เพื่อแก้ปัญหาการเรียน 4) นักเรียนมีความสุขที่ได้มาเรียนที่โรงเรียน 5) นักเรียนมีแฟ้มสะสมผลงานจากการเรียน 6) โรงเรียนมีระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย 7) โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลายทั้งในและนอกโรงเรียน และ8) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมั่นและศรัทธาในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน ด้านการบริหาร จัดการศึกษา โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีความพึงพอใจมากที่สุดในประเด็น 1) ผู้บริหารมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการสถานศึกษา 2) ผู้บริหารสามารถเข้ากับชุมชนได้เป็นอย่างดี 3) โรงเรียนพัฒนาไปในทุก ๆ ด้านอย่างน่าพอใจ
4) บุคลากรในโรงเรียนทำงานอย่างเข้มแข็ง และ 5) โรงเรียนพัฒนาจนสามารถเป็นแบบอย่างได้
ด้านการประกันคุณภาพภายใน โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีความพึงพอใจมากที่สุด
ในประเด็น 1) โรงเรียนมีแนวทางในการรักษาคุณภาพการศึกษาที่ชัดเจน 2) โรงเรียนพัฒนางานได้ประสบผลสำเร็จตามแผนพัฒนาคุณภาพ 3) โรงเรียนมีการนิเทศกำกับติดตามระบบประกันคุณภาพสม่ำเสมอ
4) โรงเรียนมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา 5) โรงเรียนจัดทำรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปีในเชิงเปรียบเทียบ 6) ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาจากหน่วยงาน
ต้นสังกัดอยู่ในระดับดีและดีมาก และ 7) โรงเรียนผ่านการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามในระดับ คุณภาพดีและดีมากทุกมาตรฐาน