|
|
ชื่อผลงานวิจัย รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดหนอง โพรง โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model
ชื่อผู้วิจัย นายกันพิเชฐษ์ มลเกตุ
ปีการศึกษา 2560
บทสรุปผู้บริหาร
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดหนองโพรง โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับ ความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของโครงการ ปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับความเหมาะสม ของบุคลากรที่รับผิดชอบและงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน กระบวนการของโครงการเกี่ยวกับกิจกรรม ที่ดำเนินการและการติดตามโครงการและผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การแก้ไขปัญหาของนักเรียน การส่งต่อนักเรียน การมีวินัยของนักเรียน ความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครองและครู มีกลุ่มตัวอย่าง 212 คน ประกอบด้วยนักเรียน 103 คน ผู้ปกครอง 103 คน และครู 6 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายโดยการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบบันทึก แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้หาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ IOC หาความตรงเชิงเนื้อหาของแบบสอบถาม และสัมประสิทธิ์แอลฟา หาความเที่ยงของแบบสอบถาม ผลการประเมินโครงการสรุปได้ดังนี้ ผลการประเมินโครงการในภาพรวม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นและทุกตัวชี้วัด ดังนี้ 1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากทั้งตัวชี้วัด ความต้องการจำเป็นในการจัดทำโครงการ และความเป็นไปได้ของโครงการ 2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก ทั้งตัวชี้วัดความเหมาะสมของบุคลากรที่รับผิดชอบ และร้อยละของงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน 3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุดทั้งตัวชี้วัดร้อยละของกิจกรรมที่ดำเนินการและร้อยละของการติดตามโครงการ 4. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด ระดับมากที่สุด ได้แก่ ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการส่งต่อ ระดับมาก ได้แก่ ร้อยละของนักเรียนที่ครูรู้จักเป็นรายบุคคล ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการคัดกรอง ร้อยละของนักเรียนที่มีวินัยเพิ่มขึ้น ระดับความพึงพอใจของนักเรียน ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครองและระดับวัดความพึงพอใจของครูระดับปานกลาง ได้แก่ ร้อยละ ของนักเรียนที่ได้รับการแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ
ข้อเสนอแนะ การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลายๆ ฝ่าย เช่น ครูและผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนา ป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จากผลการประเมินรายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดหนองโพรง โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model จะเห็นได้ว่าควรดำเนินโครงการนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้เกี่ยวข้องควรนำผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินโครงการอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตามข้อเสนอแนะดังนี้ 1. จากผลการประเมินประเด็นบริบท พบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก แต่เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าความร่วมมือของผู้ปกครอง และการกำกับติดตามโครงการอยู่ในระดับปานกลาง ผู้บริหารจึงควรชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและควรกำกับติดตามการดำเนินงานตามโครงการโดยต่อเนื่อง นอกจากนี้บริบทของโครงการ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการการดำเนินโครงการ การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้อง กับความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของโครงการจะเป็นเข็มทิศชี้นำการปฏิบัติไปสู่ความสำเร็จได้ดี จึงควรมีการพิจารณาถึงความต้องการจำเป็นของสภาพแวดล้อม คือ ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู และกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา นโยบายหน่วยงานต้นสังกัดและสภาพปัญหาของนักเรียน อันเป็นการตอบสนองความต้องการของนักเรียนอย่างแท้จริง 2. จากผลการประเมินประเด็นปัจจัยนำเข้าโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าความเพียงพอและความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับปานกลาง ผู้บริหารจึงควรสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ต้องใช้ในการดำเนินงานโครงการให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรมและควรสร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้พร้อมก่อนการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด 3. จากผลการประเมินประเด็นกระบวนการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของผู้รับผิดชอบโครงการซึ่งควรยึดถือปฏิบัติในการดำเนินโครงการ นอกจากนั้น การปฏิบัติตามกิจกรรมของโครงการมีหลายกิจกรรมที่ต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน เช่น นักจิตวิทยา นักสาธารณสุข ในการดูแลช่วยเหลือพัฒนานักเรียนตามสภาพปัญหาและความต้องการ ของแต่ละคน จึงควรขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ให้คำแนะนำช่วยเหลือ และติดตามผลในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์
4. จากผลการประเมินประเด็นผลผลิตพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก ยกเว้นตัวชี้วัดนักเรียนที่ได้รับการแก้ปัญหาได้สำเร็จอยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้อาจเนื่องจากนักเรียนแต่ละคน ยังมีปัญหาด้านอื่นๆ อีก ครูจึงควรหาข้อมูลหรือทำวิจัยเชิงสำรวจเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียนต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียน ผู้ปกครองและครู มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับสูง จึงควรจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะกับความต้องการและสภาพปัญหาของนักเรียน เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน ผู้ปกครองและครู ให้มากยิ่งขึ้นไป
|
โพสต์โดย กัน : [20 ก.ย. 2560 เวลา 11:25 น.] อ่าน [5500] ไอพี : 106.0.211.226
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 4,857 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,962 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,479 ครั้ง
| เปิดอ่าน 401,935 ครั้ง
| เปิดอ่าน 39,114 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,619 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,004 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,841 ครั้ง
| เปิดอ่าน 330,003 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,457 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,329 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,706 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,400 ครั้ง
| เปิดอ่าน 204,849 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,653 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 27,016 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,255 ครั้ง
| เปิดอ่าน 74,622 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,284 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,312 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|