ชื่อเรื่อง การพัฒนาการเรียนรู้ เรื่อง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1
ผู้วิจัย นางสาวจารุนันท์ ทรงพุฒิ ครู วิทยะฐานะ ชำนาญการ โรงเรียนบ้านปางคอม
อำเภอปากชม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1
บทคัดย่อ
การพัฒนาการเรียนรู้ เรื่อง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาเลย เขต 1 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนเรื่อง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนเรียนละหลังเรียน เรื่อง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทยเพื่อสุขภาพ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 จำนวน 27 คน ได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง ( Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน เรื่องขนมไทยเพื่อสุขภาพ มีค่าความเที่ยงตรงระหว่าง 0.60 1.00 แผนการจัดการเรียนรู้มีค่าความเที่ยงตรงระหว่าง 0.80-1.00 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ มีค่าความยาก ระหว่าง 0.43-0.69 ค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง 0.45-0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 แบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.58-0.74 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความเที่ยงตรง ค่าความยาก ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบ ( t-test แบบ Dependent Samples)
ผลการวิจัย พบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.72/88.76 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 มีค่าเท่ากับ 0.7719 แสดงว่านักเรียนได้รับการพัฒนา คิดเป็นร้อยละ 77.19
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่อการพัฒนาการเรียนรู้ เรื่อง
ขนมไทยเพื่อสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ขนมไทยเพื่อ
สุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปางคอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด