|
|
บทคัดย่อ
ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนตามรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทยกับรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ ๓) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนตามรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย กับรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ
ขั้นตอนในการพัฒนา มี ๕ ขั้น ได้แก่ ๑) ศึกษารูปแบบการเรียนรู้ โดยสังเคราะห์รูปแบบด้วยวิธีการประชุมกลุ่ม (focus group) เครื่องมือที่ใช้คือร่างรูปแบบ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิทดลองและประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ หาข้อสรุปเพิ่มเติมเพื่อให้ได้องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสม ๒) ออกแบบรูปแบบการเรียนรู้ โดยกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายของรูปแบบการเรียนรู้ ๓) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยศึกษารูปแบบ ระดมความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ กำหนดองค์ประกอบของรูปแบบและประเมินผลโดยผู้เชี่ยวชาญ ๔) ทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ โดยพัฒนาสื่อมัลติมีเดียตามรูปแบบ ประเมินผลโดยผู้เชี่ยวชาญ ทดลองใช้สื่อมัลติมีเดียโดยกลุ่มตัวอย่าง ๕) ประเมินผลรูปแบบการเรียนรู้ โดยนำผลการทดลองมาสรุปผล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ๑) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสังเคราะห์รูปแบบ จำนวน ๕ คน ผู้เชี่ยวชาญด้านรูปแบบการเรียนรู้ จำนวน ๓ คน ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน ๓ คน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและวิธีการ จำนวน ๓ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ๒) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านลานวิทยาคม จำนวน ๕๔ คน แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย จำนวน ๒๗ คน และกลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน ๒๗ คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ร่างรูปแบบ การเรียนรู้ แบบสอบถามด้านความเหมาะสมของรูปแบบ ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๑ แบบสอบถามด้านเนื้อหาและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๓ แบบสอบถามด้านเทคนิคและวิธีการ ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๙๐ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๙๒ และแบบทดสอบ วัดทักษะการคิดวิเคราะห์ ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๖ การเก็บรวบรวมข้อมูล ได้จากการระดมความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ด้วยวิธีการประชุมกลุ่ม (focus group) การสอบถามความคิดเห็น การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การพรรณนาวิเคราะห์และใช้สถิติเชิงพรรณนา หาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าความแตกต่าง t-test โดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป วิเคราะห์ประเด็นเชิงเนื้อหาในข้อค้นพบ นำเสนอประกอบความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันว่า ร่างรูปแบบเป็นไปตามกรอบแนวคิดของการวิจัย สอดคล้องกับปัญหาของโรงเรียนและการแก้ปัญหา มีความเหมาะสมกับระดับความรู้ วุฒิภาวะของนักเรียน หากคุณครูภาษาไทยได้นำไปใช้จริง จะมีประโยชน์ต่อนักเรียนมาก หากครูภาษาไทยชั้นอื่น หรือครูผู้สนใจจะนำรูปแบบไปใช้ให้ทำความเข้าใจในสาระสำคัญของรูปแบบก่อนนำไปใช้ โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = ๔.๘๖, S.D. = ๐.๒๓)
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนตามรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย สูงกว่าผู้เรียนกลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบ การเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๓. ทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนตามรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย สูงกว่าผู้เรียนกลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
|
โพสต์โดย ครูแมว : [12 ก.ย. 2560 เวลา 18:56 น.] อ่าน [5406] ไอพี : 223.207.212.127
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 2,448 ครั้ง
| เปิดอ่าน 62,753 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,220 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,451 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,452 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,410 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,412 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,481 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,230 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,900 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,853 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,865 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,209 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,914 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,768 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 32,761 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,493 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,168 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,513 ครั้ง
| เปิดอ่าน 52,805 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|