ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิด สร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิด

สร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ

เทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม

ผู้วิจัย นางจงกล เขียนปัญญา

ปีที่วิจัย 2558

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิด สร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ เทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม

ผู้วิจัย นางจงกล เขียนปัญญา

ปีที่วิจัย 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือที่ใช้เทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการเรียนจากการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการเรียนจากการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือที่ใช้เทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม จำนวน 22 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย (1) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (3) แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการทดสอบที (Paired Sample t-test)

ผลการวิจัย พบว่า

1.ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นสอดคล้องกันว่าการเรียนรู้แบบร่วมมือที่ใช้เทคนิค STAD สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์และความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนได้

2. รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีองค์ประกอบหลัก 5 องค์ประกอบคือ

1) หลักการของรูปแบบ

2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ

3) กระบวนการและกิจกรรม

4) การวัดและประเมินผล

5) ผลป้อนกลับ

โดยมีกระบวนการและกิจกรรม ประกอบด้วย ขั้นเตรียม ขั้นสอน ขั้นทำกิจกรรมกลุ่ม ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ ขั้นสรุปบทเรียนและประเมินผลการทำงานกลุ่ม และรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 86.52/87.22 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน หลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม โดยรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5.นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรื่องคุณค่าเศษผ้าไหม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย หมอก : [29 ส.ค. 2560 เวลา 20:56 น.]
อ่าน [4829] ไอพี : 103.14.10.139
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,490 ครั้ง
จัดบ้านให้ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ
จัดบ้านให้ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ

เปิดอ่าน 23,199 ครั้ง
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!

เปิดอ่าน 10,574 ครั้ง
แนะนำหนังสือน่าอ่าน
แนะนำหนังสือน่าอ่าน

เปิดอ่าน 19,364 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

เปิดอ่าน 17,239 ครั้ง
ยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะ

เปิดอ่าน 18,649 ครั้ง
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

เปิดอ่าน 19,828 ครั้ง
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"

เปิดอ่าน 9,192 ครั้ง
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ : กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่อำนวยการระดับสูงหรือเทียบเท่าลงมา พ.ศ.2562
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ : กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่อำนวยการระดับสูงหรือเทียบเท่าลงมา พ.ศ.2562

เปิดอ่าน 9,351 ครั้ง
ทำไมคนเราถึงฝัน
ทำไมคนเราถึงฝัน

เปิดอ่าน 14,922 ครั้ง
"SEGWAY" นวตกรรมแห่งโลกอนาคต
"SEGWAY" นวตกรรมแห่งโลกอนาคต

เปิดอ่าน 28,830 ครั้ง
กฎ  ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)

เปิดอ่าน 44,239 ครั้ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา  สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง

เปิดอ่าน 14,745 ครั้ง
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา

เปิดอ่าน 23,093 ครั้ง
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (บรูไนดารุสซาลาม)
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (บรูไนดารุสซาลาม)

เปิดอ่าน 12,455 ครั้ง
"บรมครูอินเตอร์เน็ต" ชี้อีก 50 ปี จะไม่มีหนังสือพิมพ์กระดาษ
"บรมครูอินเตอร์เน็ต" ชี้อีก 50 ปี จะไม่มีหนังสือพิมพ์กระดาษ

เปิดอ่าน 12,191 ครั้ง
แก้เมื่อยด้วย กะลา
แก้เมื่อยด้วย กะลา
เปิดอ่าน 36,717 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา (การเบิกค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม)
รับชมย้อนหลัง ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา (การเบิกค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม)
เปิดอ่าน 15,736 ครั้ง
พระคงคา
พระคงคา
เปิดอ่าน 19,807 ครั้ง
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1
เปิดอ่าน 22,622 ครั้ง
แก่นขนุน
แก่นขนุน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ