บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบ การเรียน เรื่องโปรแกรม Paint เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนโดยไม่ได้ใช้เอกสารประกอบการเรียน และหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องโปรแกรม Paint และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง โปรแกรม Paint ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน เป็นการศึกษาแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อน และหลังการศึกษา (One Group Pretest Posttest Design)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง โปรแกรม Paint ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง โปรแกรม Paint ซึ่งผู้รายงานสร้างขึ้นเอง
วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบ ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยการทดสอบค่าที (t test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง โปรแกรม Paint ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.05/80.61 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี หลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องโปรแกรม Paint มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนโดยไม่ได้ใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องโปรแกรม Paint อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี มีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง โปรแกรม Paint อยู่ในระดับมาก