ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของ นักเรียน โดยใช้เครือข่ายการมีส่วน

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึง

ประสงค์ของ นักเรียน โดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียน

อนุบาลละงู

ชื่อผู้ประเมิน : นางฝาริดะ หมื่นชล

ปีการศึกษา : 2559

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

รายงานการประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียนอนุบาลละงู มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม ผลการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยประยุกต์รูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP-Model) มาใช้ในการประเมิน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วยนักเรียน จำนวน 389 คน ครู จำนวน 40 คน ผู้ปกครอง จำนวน 300 คน และ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ ประกอบด้วย แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 5 ฉบับ ทุกฉบับผ่านการตรวจคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับระหว่าง .941 - .988 และแบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม (Context) ของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้ เครือข่าย การมีส่วนร่วม โรงเรียนอนุบาลละงู ปีการศึกษา 2559 ตามความคิดเห็นของ ครูและ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและ ทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า ปีการศึกษา 2559 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นฐานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (x̄=3.84, S.D. = 0.76) มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน และรองลงมาคือ ครู มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄= 3.77, S.D. = 0.71) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนอนุบาลละงู ปีการศึกษา 2559 ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลประเมินด้านกระบวนการ (Process) ของโครงการการป้องกัน และแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้ เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียนอนุบาลละงู ปีการศึกษา 2559 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครูและผู้ปกครอง พบว่า โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.76, S.D. = 075 ) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.71, S.D. = 0.75) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด

(x̄ = 3.70, S.D. = 0.75) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกตัวชี้วัดที่ประเมิน

4. ด้านผลผลิต (Product) ในการดำเนินโครงการ จำแนกเป็น

4.1 สรุปผลการประเมินด้านการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียนอนุบาลละงู ปีการศึกษา 2559 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่ากลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก

(x̄ = 3.80, S.D. =0.75) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียน อยู่ในระดับมาก (x̄= 3.72,S.D. = 0.76) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก (x̄= 3.70,S.D. = 0.68) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 สรุปผลการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลละงู ทั้งพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ที่ไม่รุนแรง และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง โดยรวม ปีการศึกษา 2558 จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 678 คน คิดเป็นร้อยละ 59.44 ปีการศึกษา 2559 จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 673 คน คิดเป็นร้อยละ 30.16 ลดลง 200 คน คิดเป็น ร้อยละ 29.28 และ เมื่อพิจารณาแต่ละพฤติกรรมพบว่า พฤติกรรมการมาโรงเรียนสาย ลดลงมากที่สุด ร้อยละ 2.93 รองลงมาคือ พฤติกรรมการไม่มีสัมมาคารวะ ลดลงร้อยละ 2.35 ส่วนพฤติกรรม โดดเรียนลดลงน้อยที่สุด ร้อยละ 0.88

4.3 สรุปผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการ การป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้ เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียนอนุบาลละงู ปีการศึกษา 2559 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄= 3.83, S.D. =0.66) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ การประเมิน รองลงมาคือ นักเรียน และ ครู อยู่ในระดับมาก (x̄= 3.70,S.D. = 0.75) และ(x̄= 3.70,S.D. = 0.63) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก (x̄= 3.65 ,S.D. = 0.71 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอเพื่อนำผลการประเมินไปใช้

1.1 โรงเรียนควรจัดโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพของผู้เรียน

1.2 ควรส่งเสริมให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียนได้อย่างยั่งยืน

1.3 ควรยกย่อง เชิดชูเกียรติ ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลงานที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียนอนุบาลละงู ปีการศึกษา 2559 ของบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อก่อให้เกิดพลังในการทำงานเพิ่มขึ้น

2. ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมินและวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางในการประเมินโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนของโรงเรียนในรูปแบบวิธีการอื่นที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน

2.2 ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนตามบริบทของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานตามโครงการต่อไป

2.3 ควรมีการศึกษาการประเมินโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ พึงประสงค์ของนักเรียนในเชิงคุณภาพ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกอันจะเป็นประโยชน์ต่องานพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป

โพสต์โดย rongfarida : [25 ส.ค. 2560 เวลา 19:14 น.]
อ่าน [3818] ไอพี : 1.1.155.129
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,850 ครั้ง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง

เปิดอ่าน 12,917 ครั้ง
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ

เปิดอ่าน 42,678 ครั้ง
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 (ฉบับที่ 2)
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 (ฉบับที่ 2)

เปิดอ่าน 25,740 ครั้ง
คุณรู้ไหมว่า 25 มกราคม2556 ! เกิด "กรม"ใหม่เกิดขึ้นในระบบราชการไทย
คุณรู้ไหมว่า 25 มกราคม2556 ! เกิด "กรม"ใหม่เกิดขึ้นในระบบราชการไทย

เปิดอ่าน 11,055 ครั้ง
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์

เปิดอ่าน 24,938 ครั้ง
ฝนช่อมะม่วง
ฝนช่อมะม่วง

เปิดอ่าน 32,004 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ

เปิดอ่าน 35,194 ครั้ง
ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด
ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด

เปิดอ่าน 12,508 ครั้ง
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"

เปิดอ่าน 57,048 ครั้ง
วิธีเด็ดช่วยจำศัพท์อังกฤษ
วิธีเด็ดช่วยจำศัพท์อังกฤษ

เปิดอ่าน 6,781 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 14,467 ครั้ง
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59

เปิดอ่าน 22,637 ครั้ง
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค

เปิดอ่าน 9,288 ครั้ง
"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน
"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน

เปิดอ่าน 42,204 ครั้ง
กฎหมายตราสามดวง
กฎหมายตราสามดวง

เปิดอ่าน 11,178 ครั้ง
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน
เปิดอ่าน 42,266 ครั้ง
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
เปิดอ่าน 15,626 ครั้ง
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด "SCB-สถาบันการศึกษา"
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด "SCB-สถาบันการศึกษา"
เปิดอ่าน 58,582 ครั้ง
ผลสัมฤทธิ์การปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (The Achievement of Education Reform)
ผลสัมฤทธิ์การปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (The Achievement of Education Reform)
เปิดอ่าน 20,882 ครั้ง
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ