บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิต ศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ลาดับและอนุกรม
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียน
ที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนสามพาดพิทยาคาร อาเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 จานวน 24 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive Sampling) และเป็นห้องเรียนที่ผู้ศึกษาปฏิบัติหน้าที่เป็นครูผู้สอนรายวิชาคณิตศาสตร์ เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาครั้งนี้มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม จานวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ลาดับและอนุกรม วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จานวน 18 แผน แผนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน จานวน 2 แผน รวมทั้งหมด 20 แผน 3) แบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 30 ข้อ โดยครอบคลุมเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัส ค32101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พุทธศักราช 2551 โดยแบบทดสอบ มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.38 0.78 มีค่าอานาจจาแนกระหว่าง 0.25 0.79 ขึ้นไปและค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ลาดับและอนุกรม โดยจัดทาเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มี 4 ด้าน คือ ลักษณะรูปเล่ม เนื้อหาสาระการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล จานวน 16 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน ใช้ t test (แบบ Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม มีค่าเท่ากับ 77.29/76.11 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม มีค่าเท่ากับ 0.5182 หรือคิดเป็นร้อยละ 51.82
4. นักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.67
โดยสรุป แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลาดับและอนุกรม มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ สามารถนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้และบรรลุตามเป้า หมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น จึงควรสนับสนุนให้ครูนาแบบฝึกทักษะนี้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่อไป