ผลงานทางวิชาการ
เรื่อง การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการ
ของโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย
นางสาวจามรี รอดกลาง
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการ
โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานครและศึกษาข้อเสนอแนะในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานครโดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูของโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2559 รวมทั้งสิ้น 78 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1.ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน สามารถเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้แก่ 1) ด้านการส่งเสริมความรู้ทางวิชาการแก่ชุมชน รองลงมาคือ 2)ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 3)ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ 4)ด้านการนิเทศการศึกษา 5)ด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 6)ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 7)ด้านการแนะแนวการศึกษา 8)ด้านการวัดผล ประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียน 9)ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและ10) ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตามลำดับ
2.ข้อเสนอแนะในการบริหารงานวิชาการของครูโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ตามกรอบแนวคิดการวิจัย พบดังนี้
2.1.ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาควรมีการปรับปรุง ทบทวนหลักสูตรสถานศึกษาให้เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ เป็นประจำทุกปีการศึกษา
2.2.ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาควรมีการจัดบรรยากาศการเรียนการสอนในห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้
2.3.ด้านการวัดผล ประเมินผล และเทียบโอนผลการเรียน ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาสร้างความเข้าใจแก่ ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนในเรื่องการวัดผลและประเมินผล ที่หลากหลายตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยการจัดอบรมสัมมนา
2.4.ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาควรส่งเสริมให้บุคลากรได้ทำการวิจัยในชั้นเรียนคนละ 1 ชิ้นต่อภาคเรียน
2.5.ด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูผลิตสื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการผลิตสื่อการเรียนรู้
2.6.ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาควรมีการสำรวจแหล่งเรียนรู้ ทั้งในโรงเรียนและบริเวณใกล้เคียงเพื่อนำมาพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้
2.7.ด้านการนิเทศการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาควรจัดระบบนิเทศที่เป็นระบบ ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้รับการนิเทศมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทราบข้อบกพร่อง ข้อที่ควรพัฒนาและทำให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนางานอย่างแท้จริง
2.8.ด้านการแนะแนวการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาควรจัดให้มีห้องแนะแนว หรือมุมแนะแนว เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมแนะแนว ที่เป็นสัดส่วนที่แน่นอน
2.9.ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ สถานศึกษาควรเปิดโอกาสให้คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง และนักเรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนและโครงการและพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา