การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยนำเข้าและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนด้านการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาประสิทธิผลของพัฒนาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการ 3.1) เปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบซิปปา (CIPPA Model)
เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ก่อนเรียนและหลังเรียน
4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 32 คน ซึ่งได้จากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วย ในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ 1) ชุดฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบโมเดลซิปปา
(CIPPA Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 2 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 22 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ 1) ค่าประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะ
โดยวิธีการหาค่าร้อยละ 2) เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคะแนนทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยวิธีการทดสอบค่าที (t-test แบบ Dependent Samples) และ 3) ประเมินความพึงพอใจ โดยใช้ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 84.22/81.17
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยบูรณาการร่วมกับรูปแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) โดยเฉลี่ยมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.69 S.D. = 0.47 )