|
|
เรื่องที่วิจัย การพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นายณัฐกิตติ์ เฉลิมศรี
โรงเรียนเทศบาล ๒ พิบูลวิทยาคาร สังกัดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย 2559
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แหล่งข้อมูลประกอบด้วยแหล่งข้อมูลวัตถุประสงค์ข้อที่1 ได้แก่1) หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2) หลักสูตรสถานศึกษา 3) หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 4) ผลการทดสอบระดับชาติ 5) รายงานการประเมินตนเอง แหล่งข้อมูลวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการสร้างและพัฒนาต่อรูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ 3) นักเรียนกลุ่มที่ใช้หาประสิทธิภาพนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๒ พิบูลวิทยาคาร สังกัดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี จำนวนทั้งหมด 68 คน แหล่งข้อมูลวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 ได้แก่ นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๒ พิบูลวิทยาคาร สังกัดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 36 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) แหล่งข้อมูลวัตถุประสงค์ข้อที่ 4 ได้แก่ นักเรียนกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๒ พิบูลวิทยาคาร สังกัดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 36 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แบบบันทึกผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอน ที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) รูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการแก้โจทย์ปัญหา ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติค่าที (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการเรียนรู้คณิตศาสตร์เป็นการพัฒนาผู้เรียนให้ได้รับทั้งความรู้ กระบวนการต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ เช่นทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดสร้างสรรค์ และทักษะการประยุคใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น ผู้เรียนควรได้รับการกระตุ้นให้สนใจและกระตือรือร้นที่จะเรียนคณิตศาสตร์ จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาดังกล่าว พบว่า ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้ที่แตกต่างกัน ทำให้มีความสนใจ และการรับรู้ที่แตกต่างกันด้วย จากปัญหากล่าวจึงส่งผลให้ผู้เรียนขาดทักษะการเรียนรู้ ขาดทักษะการคิดต่างๆ ทำให้ผู้สอนขาดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการคิดต่างๆ ต่อวิชาคณิตศาสตร์ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาวิชาและสามารถนำความรู้ใช้ในการแก้ปัญหา ในชีวิตประจำวันได้ต้องอาศัยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ความรู้มีส่วนเกี่ยวข้องและเสริมสร้างความเข้าใจของผู้เรียน เป็นกระบวนการ ที่เกิดขึ้นภายในผู้เรียน ผู้เรียนเป็นผู้คิดและแก้ปัญหาตามกระบวนการและขั้นตอนการแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์และยังส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหาและนำไปประยุคใช้ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนมีสมรรถนะตามมาตรฐานที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด ทั้งนี้ด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ โดยผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็นเครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
2. ผลการประเมินรูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมมีความถูกต้องเหมาะสม ระดับมาก ( = 4.29) และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ของกลุ่มตัวอย่าง มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80 โดยมีประสิทธิภาพ 81.14/81.11
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลความก้าวหน้าของนักเรียนที่เรียน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.7182 คิดเป็นร้อยละ71.82 และรูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนที่เน้นความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.41 )
|
โพสต์โดย Nut : [20 ส.ค. 2560 เวลา 21:46 น.] อ่าน [5221] ไอพี : 223.205.239.253
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,572 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,636 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,277 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,695 ครั้ง
| เปิดอ่าน 107,530 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,859 ครั้ง
| เปิดอ่าน 38,056 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,682 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,555 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,955 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,340 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,302 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,533 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,578 ครั้ง
| เปิดอ่าน 72,055 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 23,542 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,483 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,330 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,424 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,934 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|