การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ จังหวัดอุบลราชธานี รูปแบบการวิจัยที่ใช้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) ซึ่งแบ่งขั้นตอนการวิจัยออกเป็น 5 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ความต้องการและแนวทางของการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 69 คนและครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ดีเด่น จำนวน 4 คน ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ขั้นตอนที่ 3 การนำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรไปใช้จริง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองวารินชำราบ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ขั้นตอนที่ 4 การศึกษาความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ขั้นตอนที่ 5 การนำเสนอผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มเป้าหมายได้แก่ผู้บริหารและครูที่สอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 35 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาความคิดเห็นสภาพปัจจุบันและความต้องการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร จากการสอบถามนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (μ =3.49) ส่วนความต้องการในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด (μ = 4.51) และผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการและแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ สรุปได้ว่า การกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุกเป็นการจัดการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และสอดคล้องกับแนวการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยการจัดการเรียนรู้จะเน้นให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ในกลุ่ม ได้เคลื่อนไหวร่างกายได้ลงมือปฏิบัติและสรุปความรู้ด้วยตนเอง โดยให้นักเรียนได้เรียนอย่างกระตือรือร้นและมีความสุขในการเรียน แนวทางหรือรูปแบบในการจัดการเรียนรู้ เริ่มจากขั้นนำโดยการกำหนดปัญหา กำหนดสถานการณ์ โดยให้นักเรียนแก้ปัญหาหรือหาความรู้เป็นกลุ่มโดยได้แสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกจากนั้นร่วมกันสรุปองค์ความรู้โดยมีการนำเสนอ การอภิปรายในชั้นเรียน และสุดท้ายเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ และจากการสังเคราะห์รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ได้ขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ขั้น ได้แก่ 1) ขั้นนำ 2) ขั้นการสืบค้นความรู้จากแหล่งข้อมูลและสารสนเทศ 3) ขั้นเชื่อมโยงความรู้ 4) ขั้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ปฏิบัติงานกลุ่ม 5) ขั้นการสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน 6) ขั้นการสื่อสารและการนำเสนอ 7) ขั้นประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
2. ผลการประเมินคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ จังหวัดอุบลราชธานีที่สร้างขึ้น โดยรวมมีคุณภาพมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79
3. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ที่นำไปใช้จริง มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.60/79.31 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 75/75 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 60.70
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร พบว่าโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด
5. การนำเสนอผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร พบว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา โดยภาพรวมเห็นด้วยกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเชิงรุกอยู่ในระดับมากที่สุด