ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้าน เซินราษฎร์เกษมศรี โดยการจัดการเรียนรู้แบบรายการเกมโชว์ English Quiz Game Show
ผู้วิจัย นายฉัตรชัย นามมี
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านเซินราษฎร์เกษมศรี อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเซินราษฎร์เกษมศรี โดยการจัดการเรียนรู้แบบรายการเกมโชว์ English Quiz Game Show มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของผู้เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรายการเกมโชว์ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 1 โรงเรียนบ้านเซินราษฎร์เกษมศรี อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน การดำเนินการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการตามทฤษฏีของเคมมิส และแม็คแท็คการ์ท วงจร PAOR เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ทั้งหมด 4 แผน แต่ละแผนใช้พัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษในแต่ละวงรอบทั้งหมด 4 วงรอบ การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้ทำการวัดและประเมินผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ของแต่ละแผน แล้วนำมาตรวจสอบคุณภาพข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation Technique) ส่วนการข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูล จากแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง แบบสังเกตแบบกึ่งโครงสร้างและเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงบรรยาย ผลปรากฏดังนี้
ในวงรอบที่ 1 ปรากฏว่า ในขั้นกิจกรรม Post-reading แบ่งนักเรียนออกเป็น 6 ทีม ทีมละ 5 คน เพื่อเล่นเกม มีจำนวน 2 ทีม ตอบคำถามไม่ถูกต้อง เนื่องจาก ผู้เรียนยังไม่คุ้นเคยกับการเรียนแบบการจัดรายการแบบเกมโชว์ ผู้เรียนรู้สึกตื่นเต้นในการตอบคำถาม ไม่มั่นใจในคำถาม ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในวงรอบต่อไป
ในวงรอบที่ 2 ผู้วิจัยจึงทำการแก้ปัญหา โดยใช้วิธีการให้นักเรียนฝึกอ่านจากบริบทในเนื้อเรื่องและตรวจสอบความเข้าใจโดยให้ทำแบบฝึกหัด และกิจกรรมจนคุ้นชินกันเนื้อหาในบทเรียน และในขั้น Post-reading นักเรียนที่ตื่นเต้นกับการได้ร่วมกิจกรรมเกมโชว์ครั้งแรก ครูผู้สอนก็ได้ มีการซักซ้อมการจัดรายการเพื่อปรับสภาพผู้เรียนให้พร้อมที่จะเล่นผู้เรียนเริ่มเข้าใจและตอบคำถามในได้อย่างถูกต้อง ซึ่งสังเกตได้จากการตอบคำถามอย่างมั่นใจของผู้เรียนในแต่ละทีม ผู้เรียนอยากให้มีข้อคำถามมากกว่าที่ได้เล่นตามบทเรียน แต่เนื่องจากการเล่มเกมต้องใช้เวลาในการเล่นนานอาจเป็นปัญหาเรื่องเวลาไม่พอกับการเรียนวิชาอื่นๆ ในวงรอบนี้ยังพบปัญหาคือ มีจำนวน 1 ทีม ได้คะแนนน้อยที่สุด เนื่องจากรีบตอบคำถามแล้วไม่ได้ทบทวนคำถามอีกครั้ง จึงต้องแก้ไขในวงรอบต่อไป
ในวงรอบที่ 3 ผู้วิจัยได้นำแบบทดสอบทักษะการอ่านเนื้อเรื่องฝึกการอ่าน แบบ scanningให้กับผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้จนชำนาญทุกคน ในขั้น Post-reading ที่ได้นำเกมโชว์มาใช้ผลปรากฏว่า ผู้เรียนมีทักษะด้านการอ่านเพิ่มขึ้น ระมัดระวังในการตอบคำถามมากยิ่งขึ้น จับใจความสำคัญในประโยคได้ และสามารถตอบคำถามได้ถูกต้อง มีความสุขกับการเล่นเกมและมีคะแนนเพิ่มมากขึ้นจากรอบที่แล้ว เพราะการแบ่งกลุ่มจะคละกลุ่มไปแต่ละวงรอบจะไม่ใช่กลุ่มเดิมในการเล่นเกม นอกจากนี้ยังมีอีก 1 ทีมที่มีคะแนนน้อย จากการสอบถาม ผู้เรียนให้เหตุผลว่าเพื่อนในกลุ่มมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งในกลุ่มมีผู้ที่มีอิทธิพลในกลุ่ม (dominant) คอยบังคับให้เพื่อนเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นของตนเอง ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นเพื่อนในกลุ่ม และต้องรีบตอบเพราะกลัวไม่ทันเวลาที่กำหนด จึงทำให้ผู้เรียนรีบตอบแบบไม่มั่นใจ
ในวงรอบที่ 4 ผู้วิจัยจึงแก้ปัญหาจากวงรอบที่ 3 ดังกล่าว ซึ่งผู้เรียนได้ให้เหตุผลว่าการอ่านจะต้องใช้เวลานานอ่านไม่ทันเวลาที่กำหนด จึงรีบตอบคำถามไม่มีความมั่นใจในการตอบคำถาม ผู้สอนจึงได้เพิ่มเวลาในการอ่านแต่ละข้อ เพื่อให้ผู้เรียนได้มีเวลาในการอ่านและแปล แล้ว 1 ในกลุ่มผู้เรียนที่มีอิทธิพลในกลุ่ม (dominant) ก็ได้แก้ปัญหาโดยการเรียกมาว่ากล่าวตักเตือน อธิบายความเป็นประชาธิปไตย การยอมรับเหตุผลซึ่งกันและกัน ผลจากการจัดรายการแบบเกมโชว์ในวงรอบที่ 4 ปรากฏว่า ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น มีทักษะการอ่านอย่างคล่องแคล่ว ผู้เรียนสนุกสนานและกระตือรือร้นเมื่อตอบได้ถูกต้องถึงแม้ต้องใช้เวลาในการเล่นในแต่ละข้อนาน เนื่องจากให้ผู้เรียนได้ฝึกอ่านข้อคำถามแต่ละข้อจนเข้าใจ มีความมั่นใจที่จะตอบคำถาม แต่ละทีมช่วยกันตอบคำถามและตอบได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ทุกทีม ซึ่งนักเรียนอ่อนในแต่ละทีมก็เข้าใจบทอ่านได้มากขึ้นกว่าวงรอบที่ผ่านมา