ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้แบบ CI ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ ในการเรียนสังคมศึกษา
เรื่อง อยู่อย่างพอเพียงจึงเพียงพอสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1
ผู้วิจัย นายธวัชชัย วงค์อุตส่าห์
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผล กิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังจากการได้รับการสอนแบบ CI ที่พัฒนาขึ้น (4) ศึกษาระดับความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI ที่ พัฒนาขึ้น
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 3 ยุวบูรณ์บำรุง จังหวัดหนองคาย มีนักเรียนจำนวน 38 คน ซึ่ง ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ ใช้ในการทดลองปฏิบัติได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำวน 12 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการ สะท้อนผลการปฏิบัติการสอนของครู ได้แก่ แบบบันทึกเหตุการณ์ขณะทำการสอนของครู แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน และแบบทดสอบย่อยหลังจากเรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้และการสอนแบบ CI แต่ละเรื่อง 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียน การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งมีวงจรปฏิบัติการวิจัยทั้งหมด 3 วงจร คือ วงจรปฏิบัติการที่ 1 ประกอบไปด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1–4 วงจรปฏิบัติการที่ 2 ประกอบไป ด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5–8 และวงจรปฏิบัติการที่ 3 ประกอบไปด้วย แผนการเรียนรู้ที่ 9–12 และเมื่อสิ้นสุดในแต่ละวงจรผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และสะท้อนผลการ ปฏิบัติงานเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนในวงจรปฏิบัติการต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างโดย การทดสอบที (t–test) คำนวณด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์SPSS for Windows
ผลการวิจัยพบว่า
1. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.48/83.28 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมี ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.62 แสดงว่า กิจกรรมการเรียนรู้ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 62
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบ CI มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด