ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เผยแพร่ผลงาน การประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ

บทสรุปผู้บริหาร

การประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของ ปัจจัย กระบวนการ และผลผลิตของโครงการโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 1 คน ครู จำนวน 7 คน ลูกจ้างประจำ 1 คน ผู้ปกครอง จำนวน 50 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จำนวน 20 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เนื่องจากในการเก็บข้อมูลครั้งนี้ ผู้ประเมินได้ใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามซึ่งต้องอาศัยทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ ผู้ประเมินจึงทำการเลือกแบบเจาะจงกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 รวม ทั้งสิ้น 91 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมีด้วยกัน 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับบริบทของโครงการ 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยนำเข้าของโครงการ 3) แบบสอบถามเกี่ยวกับกระบวนการของโครงการ 4) แบบสอบถามเกี่ยวกับผลผลิตของโครงการ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล จำแนกตามลักษณะของข้อมูล คือ 1) ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละ 2) การประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัยเขต 1 ข้อมูลจากการประเมินรายงานโครงการใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ส่วนข้อคำถามของแบบสอบถามใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 3) สถิติหาคุณภาพเครื่องมือ ใช้ IOC หาความสอดคล้องการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ และใช้ วิธีหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach) เพื่อหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถามทั้งฉบับ ทั้งนี้การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ประเมินใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปช่วยในการประมวลผล

สรุปผลการประเมิน

จากการวิเคราะห์ข้อมูลสามารถสรุปได้ว่า โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัยเขต 1 มีผลการประเมินตามประเด็นการประเมินหลัก และประเด็นการประเมินย่อยทุกประเด็นผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด ซึ่งสามารถจำแนกรายละเอียดผลการประเมินตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้ ดังนี้

1. ด้านบริบท พบว่า โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 ในภาพรวมมีความเหมาะสมและสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ข้อ 5 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับความต้องการของโรงเรียน รองลงมา ได้แก่ ข้อ 6 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดได้แก่ ข้อ 1 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 9 (พ.ศ.2545 - 2559)

2. ด้านปัจจัยนำเข้า เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า ผลการประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 ผ่านเกณฑ์การประเมิน อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายกิจกรรม พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ กิจกรรมโรงเรียนของเราน่าอยู่โดยชุมชนเพื่อชุมชน รองลงมาซึ่งได้ค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ กิจกรรมโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้สู่โลกกว้าง ผ่านเกณฑ์ ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาในแต่ละกิจกรรม สรุปผลได้ดังนี้

3. ด้านกระบวนการ เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 ในภาพรวม ผ่านเกณฑ์การประเมิน อยู่ในระดับมาก กิจกรรมที่มีผลการประเมินสูงที่สุด ได้แก่ กิจกรรมการเรียนรู้สู่โลกกว้าง ผ่านเกณฑ์ในระดับมาก รองลงมา คือกิจกรรมโรงเรียนของเราน่าอยู่โดยชุมชนเพื่อชุมชน ผ่านเกณฑ์ในระดับมาก และกิจกรรมโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ในระดับมาก

4. ด้านผลผลิต มีการประเมิน 2 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย 1) ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการ

เรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร และ 2) ด้านความพึงพอใจที่มีต่อโครงการพัฒนา

สภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัด

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 สรุปผลได้ดังนี้

4.1 การประเมินผลผลิตด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้าน

หนองเสาเถียร พบว่า พบว่าร้อยละของผลการเรียนเฉลี่ยทุกรายวิชาของนักเรียนโรงเรียนบ้าน

หนองเสาเถียร ผ่านเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนด เมื่อพิจารณาเป็นรายสาระการเรียนรู้ พบว่า สาระ

การเรียนรู้ที่มีค่าเฉลี่ยร้อยละสูงสุด ได้แก่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รองลงมาได้แก่

สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ส่วนสาระการเรียนรู้ที่มีค่าเฉลี่ยร้อยละต่ำที่สุด ได้แก่

สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

4.2 การประเมินผลผลิตความพึงพอใจที่มีต่อโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของ

โรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่

การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 พบว่า ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ

โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนอง

เสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 ของผู้บริหาร ครู

ลูกจ้างประจำ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครอง ในภาพรวม ผ่านเกณฑ์การประเมิน อยู่ในระดับมากที่สุด กิจกรรมที่มีผลการประเมินสูงที่สุด ได้แก่ การเรียนรู้สู่โลกกว้าง ผ่านเกณฑ์ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือกิจกรรมโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ในระดับมาก และลำดับสุดท้าย ได้แก่กิจกรรมโรงเรียนของเราน่าอยู่โดยชุมชนเพื่อชุมชน ผ่านเกณฑ์ในระดับมากที่สุด

ข้อเสนอแนะ

จากผลการประเมินพบว่า โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเสาเถียร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกด้าน ตั้งแต่ด้าน บริบท ปัจจัย กระบวนการ และผลผลิต ซึ่งถือได้ว่าการดำเนินโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ดังนั้นจึงควรดำเนินการต่อไปนี้

1. ควรมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความสำเร็จของโครงการ และผลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกสถานศึกษาให้รับทราบอย่างเป็นทางการ ด้วยช่องทางต่างๆ เช่น การประชุมผู้ปกครองนักเรียน เป็นต้น เพื่อสร้างความภาคภูมิใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกๆด้าน และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เกี่ยวข้องอื่นเกิดความสนใจและเห็นความสำคัญ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนด้านต่างๆ ในอนาคต

2. ควรมีการดำเนินการโครงการสืบเนื่องต่อไปในลักษณะเดียวกัน หรืออาจเป็นการดำเนินการโครงการต่อเนื่องจากโครงการเดิมแต่เพิ่มความเข้มข้นและดำเนินการต่อเนื่องมากขึ้น เช่น การระดมสรรพกำลังเพื่อการพัฒนาโรงเรียนในด้านอื่นๆ เป็นต้น

3. ปัจจัยส่วนสำคัญที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ และผู้เกี่ยวข้องเกิดความพึงพอใจ คือ ผู้บริหารและครูผู้รับผิดชอบโครงการ มีความรู้ ความสามารถ ในการดำเนินโครงการ ซึ่งจะต้องใช้ทักษะความรู้ความสามารถที่มีอยู่เข้ามามีส่วนในการดำเนินงานตามโครงการทั้งหมด ดังนั้น จึงเห็นว่าควรให้อิสระในการคิด และการตัดสินใจในการปฏิบัติงานมากขึ้น บนพื้นฐานความพร้อมของบุคลากรทั้งด้านความรู้ ความสามารถ ความเต็มใจ

4. ควรมีการประเมินโครงการที่สำคัญของโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่มีลักษณะแนวนโยบายที่บุคลากรทำร่วมกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนางานได้ตั้งแต่ก่อนมีโครงการ การเตรียมการและการวางแผนการดำเนินโครงการ ช่วงระหว่างดำเนินโครงการและเมื่อสิ้นสุดโครงการได้เป็นอย่างดี

5. ควรศึกษาสภาพปัญหา สภาพการปฏิบัติงานและปัญหาการปฏิบัติงาน โดยใช้กระบวนการวิจัยที่แตกต่างกันออกไป เช่น วิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สอดคล้องกับความเป็นจริงหลายๆด้าน

โพสต์โดย tottong : [31 ก.ค. 2560 เวลา 19:34 น.]
อ่าน [5210] ไอพี : 180.183.177.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,981 ครั้ง
บั้งไฟพญานาค
บั้งไฟพญานาค

เปิดอ่าน 24,105 ครั้ง
ปลา สัตว์มงคลนำโชคลาภ
ปลา สัตว์มงคลนำโชคลาภ

เปิดอ่าน 10,949 ครั้ง
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน

เปิดอ่าน 13,776 ครั้ง
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ

เปิดอ่าน 9,436 ครั้ง
ทำไมคนเราถึงฝัน
ทำไมคนเราถึงฝัน

เปิดอ่าน 19,792 ครั้ง
ตู้เก็บเอกสาร ในห้องเรียนมีประโยชน์อย่างไร
ตู้เก็บเอกสาร ในห้องเรียนมีประโยชน์อย่างไร

เปิดอ่าน 23,761 ครั้ง
วิเคราะห์อำนาจจำแนก
วิเคราะห์อำนาจจำแนก

เปิดอ่าน 22,457 ครั้ง
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 1,835 ครั้ง
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์

เปิดอ่าน 11,709 ครั้ง
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า

เปิดอ่าน 17,015 ครั้ง
ใครเป็นหนี้???..มีทางออก
ใครเป็นหนี้???..มีทางออก

เปิดอ่าน 806 ครั้ง
เดินทางกับ Cathay Pacific พร้อมทริคจองตั๋วราคาในประหยัด
เดินทางกับ Cathay Pacific พร้อมทริคจองตั๋วราคาในประหยัด

เปิดอ่าน 16,356 ครั้ง
วันตรุษจีน 2558 กับ 7 คำถามยอดฮิตที่คนอยากรู้
วันตรุษจีน 2558 กับ 7 คำถามยอดฮิตที่คนอยากรู้

เปิดอ่าน 25,885 ครั้ง
“รังผึ้ง” นวัตกรรมใหม่…สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย
“รังผึ้ง” นวัตกรรมใหม่…สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย

เปิดอ่าน 14,788 ครั้ง
ADSL2/2+
ADSL2/2+

เปิดอ่าน 13,593 ครั้ง
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา
เปิดอ่าน 11,556 ครั้ง
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
เปิดอ่าน 21,890 ครั้ง
ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบกราฟิก
ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบกราฟิก
เปิดอ่าน 12,744 ครั้ง
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต
เปิดอ่าน 9,881 ครั้ง
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ