ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับ
เทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย สิบเอกหญิงธัญรดา ด้วงปราง
ปีที่วิจัย 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านท่าตะเภา) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 21 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบภาคปฏิบัติ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานใช้สถิติ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้สี่พี (4P Model) ประกอบด้วยกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม (Preparing : P) ขั้นที่ 2 การทำตามแบบ (Patterning : P) ขั้นที่ 3 การฝึกปฏิบัติร่วมกัน (Practice Sharing : P) และขั้นที่ 4 การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance evaluations : P) และรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.08/85.24 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีผลการประเมินทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด หลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 คะแนนรวมโดยเฉลี่ยร้อยละ 82.38 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ที่ตั้งไว้
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผสมผสานรูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติดนตรีสากลตามความถนัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมากที่สุด