บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง โดยใช้รูปแบบ One Group Pretest- posttest
Design มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 บกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดชัยภูมิ ปีการศึกษา 2559 จำนวน 5 คน เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง การอ่านและการเขียน วิชาภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 แผนการเรียนรู้ 2) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 เล่ม 3) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีลักษณะเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
4) แบบทดสอบย่อยท้ายบทเรียนแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุดที่ 110 เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือกจำนวน 100 ข้อ 5)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test) ผลการวิจัย พบว่า
1) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.60/85.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ 75/75
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01
3) ค่าดัชนีประสิทธิผลของต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
มีค่าเท่ากับ 0.8155 หมายความว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.55
4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 4.70 SD เท่ากับ 0.46 อยู่ในระดับมากที่สุด