ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ชื่อเรื่อง รายงานการสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้ศึกษา นางเบญญารัต นวลนิล

โรงเรียน วัดควนวิเศษ

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 (2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดควนวิเศษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 50 คน ใช้เวลาในการทดลอง 18 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ การศึกษาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 โดยวิธีการหาค่าเฉลี่ยร้อยละ การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้ร้อยละ ศึกษาความก้าวหน้าในการเรียนใช้ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) โดยใช้ร้อยละ และศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า

1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.35/82.73 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ร้อยละ 45.53

3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.7251 หมายความว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 72.51

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย เบญ : [29 มิ.ย. 2560 เวลา 11:35 น.]
อ่าน [4438] ไอพี : 118.173.134.59
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,186 ครั้ง
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด

เปิดอ่าน 2,295 ครั้ง
5 วิธีง่ายๆ! ช่วยหยุดทานอาหารด้วยความเครียด
5 วิธีง่ายๆ! ช่วยหยุดทานอาหารด้วยความเครียด

เปิดอ่าน 51,940 ครั้ง
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี

เปิดอ่าน 10,795 ครั้ง
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 20,454 ครั้ง
ว่านหางช้าง
ว่านหางช้าง

เปิดอ่าน 14,292 ครั้ง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง

เปิดอ่าน 15,220 ครั้ง
ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น
ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 5,787 ครั้ง
จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย เผยมุมมองผู้หางานและนายจ้างกับภาวะการจ้างงาน เปรียบเทียบประเทศไทยกับอาเซียน
จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย เผยมุมมองผู้หางานและนายจ้างกับภาวะการจ้างงาน เปรียบเทียบประเทศไทยกับอาเซียน

เปิดอ่าน 8,361 ครั้ง
ผักตำลึง ผักข้างรั้วอินทรีย์ที่แท้จริง
ผักตำลึง ผักข้างรั้วอินทรีย์ที่แท้จริง

เปิดอ่าน 41,786 ครั้ง
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย

เปิดอ่าน 675,293 ครั้ง
ประวัติความเป็นมาของการศึกษาไทย
ประวัติความเป็นมาของการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 9,590 ครั้ง
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน

เปิดอ่าน 9,139 ครั้ง
Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด
Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด

เปิดอ่าน 10,015 ครั้ง
LINE ขู่ หากพบส่งข้อความหลอกให้แชร์ โดนระงับบัญชีถาวรแน่
LINE ขู่ หากพบส่งข้อความหลอกให้แชร์ โดนระงับบัญชีถาวรแน่

เปิดอ่าน 7,367 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่6
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่6

เปิดอ่าน 14,331 ครั้ง
มาอัพเดทดวงของคุณในรอบ 2 สัปดาห์
มาอัพเดทดวงของคุณในรอบ 2 สัปดาห์
เปิดอ่าน 18,056 ครั้ง
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์
เปิดอ่าน 14,342 ครั้ง
พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
เปิดอ่าน 16,225 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์
เปิดอ่าน 52,220 ครั้ง
พุทธคุณ 3
พุทธคุณ 3

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ