ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางสาวสุภาพร คำสำแดง
สาขาวิชา ฟิสิกส์
โรงเรียน ผาเสวยรังสรรค์
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ต้องการสร้างและพัฒนาชุดการเรียน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยการวิจัยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรงสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดการเรียน 3) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนทดสอบก่อนเรียนกับหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดการเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน โดยใช้ชุดการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นโดยการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนผาเสวยรังสรรค์ จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ชุดการเรียนวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง จำนวน 5 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 5 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบ ปรนัยชนิดเลือกตอบ 5 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง ระหว่าง 0.25 - 0.75 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.39 0.79 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น(= 0.71) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage, %)
ค่าเฉลี่ย(Arithmetic Mean, )ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation, S.D.)
และการทดสอบที (t-test, Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ชุดการเรียนวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 79.50/87.62 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดการเรียน มีค่าเท่ากับ 0.75
3. คะแนนการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดการเรียนวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด
โดยสรุปชุดการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่กำหนดนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นเพราะคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนและนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุดดังนั้น จึงควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนต่อไป