บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาว โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาว โดยใช้กระบวนการศึกษาหาความรู้
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาว โดยใช้กระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนชุมชนสหพัฒนา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 3 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 23 คน การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ใช้แบบกลุ่มเดียว วัดก่อนและหลัง ( one group pretest - post test design ) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องปรากฎการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาว โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จำนวน 4 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาว โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จำนวน 20 แผน
3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อประเมินความรู้ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาว โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผู้ศึกษาได้ดำเนินการสอนด้วยตนเองใช้เวลาในการสอน สัปดาห์ละ 2 ครั้งครั้งละ 1 ชั่วโมงรวม 20 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ วิเคราะห์ข้อมูลหาค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาว โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 80.11/80.43 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ และมีความเหมาะสมอยู่ในระดับ มากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาวโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนเรียนร้อยละ 39.86
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศและดวงดาวที่ใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยเท่ากับ 4.72