|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ (1) ศึกษาการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาที่มีการดำเนินงานระบบการประกันคุณภาพภายในได้ดี (2) พัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนประสานมิตรวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ให้เข้มแข็ง โดยแบ่งการวิจัยออกเป็น 2 ระยะ คือการวิจัยระยะที่ 1 การศึกษาการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาที่มีการดำเนินงานระบบการประกันคุณภาพภายในได้ดี จำนวน 3 แห่ง คือ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โรงเรียนวัดอมรินทราราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และโรงเรียนวัดศรีบังวัน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยวิธีการศึกษาเอกสาร และการวิจัยระยะที่ 2 การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนประสานมิตรวิทยา ตามกรอบภาระงานของกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2553 8 องค์ประกอบ คือ การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ การดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา การจัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) ตามแนวคิดของ Kemmis และ McTaggart 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) ดำเนินการพัฒนาจำนวน 2 วงรอบ กลุ่มผู้ร่วมวิจัยมีจำนวน 6 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัย เจ้าหน้าที่งานระบบการประกันคุณภาพภายใน และครูโรงเรียนประสานมิตรวิทยาที่สมัครใจเข้าร่วมจำนวน 4 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 18 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้ร่วมวิจัยจำนวน 6 คน และครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนประสานมิตรวิทยา จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบบันทึกการศึกษาเอกสาร แบบบันทึกการประชุม แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบบันทึกประจำวัน การจัดกระทำและการวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการจัดหมวดหมู่ข้อมูลตามกรอบการวิจัย ศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูล (Read and Re-read) และหาความสัมพันธ์ของข้อมูล โดยยึดหลักการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation) และนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
ระยะที่ 1 การศึกษาการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาที่มีการดำเนินงานระบบการประกันคุณภาพภายในได้ดี พบว่า สถานศึกษาทั้ง 3 แห่ง มีการดำเนินงานการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในเป็นไปตามกรอบภาระงานที่กำหนดไว้ใน กฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2553 และยึดแนวคิดการพัฒนาเชิงระบบของเดมิ่ง (Plan Do Check Act) เป็นพื้นฐานในการดำเนินงาน
ระยะที่ 2 การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนประสานมิตรวิทยา พบว่า สภาพก่อนการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในยังไม่เข้มแข็ง การดำเนินงานยังไม่เป็นระบบและไม่ครบตามกรอบภาระงานที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2553 และยังไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร หลังจากดำเนินการพัฒนาจำนวน 2 วงรอบ พบว่า การพัฒนาวงรอบที่ 1 โดยภาพรวมระบบการประกันคุณภาพภายในมีความเข้มแข็ง การดำเนินงานสามารถทำได้ครบตามกรอบภาระงานของกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553 อย่างเป็นระบบและมีคุณภาพ แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบ พบว่า มี 2 องค์ประกอบที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพการดำเนินงาน คือ การดำเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาและการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา การพัฒนาวงรอบที่ 2 ระบบการประกันคุณภาพภายใน 2 องค์ประกอบที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพการดำเนินงานได้รับการปรับปรุงและพัฒนาโดยการกำหนดขั้นตอนและรายละเอียดการดำเนินงานเพิ่มเติม ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและคุณภาพมากขึ้น
|
โพสต์โดย บุ : [27 มิ.ย. 2560 เวลา 09:10 น.] อ่าน [5243] ไอพี : 1.1.218.37
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 21,737 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,631 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,341 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,693 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,159 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 58,508 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,914 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 53,846 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,689 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,996 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 42,889 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,730 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 103,341 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,229 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,519 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 26,736 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 176,940 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 147,032 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,229 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,895 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|