บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเสร้าง
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียน ดงพยุงสงเคราะห์ ตำบลดงพยุง อำเภอดอนจาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ
4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.30-0.70 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.82 และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น จำนวน 6 เล่ม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.52/84.03
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและ
หลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 พบว่า หลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจ
อยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.49 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.55
โดยสรุป การเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ
เพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น เนื่องจาก
แบบฝึกเสริมทักษะสามารถกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ทั้งเป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักการทำงาน
เป็นกลุ่ม มีทักษะทางสังคม และมีความรับผิดชอบ จึงทำให้นักเรียนเอาใจใส่กับบทเรียนมากขึ้น ดังนั้นแบบฝึกเสริมทักษะจึงเป็นเครื่องมือทางการศึกษาที่ช่วยพัฒนาการเรียนการสอนของนักเรียน
ให้มีประสิทธิภาพ และทำให้นักเรียนมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้นและจดจำความรู้ได้เป็นอย่างดี