บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา รหัสวิชา พ 23103
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเซกา
จังหวัดบึงกาฬ
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21
ชื่อผู้ศึกษา นายธงชัย พลวิวัฒน์
สาขาวิชา สุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ปีการศึกษา 2559
การศึกษาครั้งนี้ วัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้สูงขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ32103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ32103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่เรียนวิชาสุขศึกษา พ23103 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ กำหนดเป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1 ห้องเรียน 41 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 ชุด ซึ่งประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน บัตรเนื้อหา บัตรกิจกรรม แบบทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เฉลยบัตรกิจกรรม2) คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งประกอบด้วย คำแนะนำการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 แผน เวลาในการทดลองสอน 18 ชั่วโมง สอบก่อนเรียน 1 ชั่วโมง และสอบหลังเรียน 1 ชั่วโมง รวมเวลาในการจัดการเรียนรู้ 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ฉบับละ 40 ข้อ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ของลิเคิร์ท (Likert) 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด จำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และค่า t-test แบบ Dependent Samples
ผลการศึกษา พบว่า
1. การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.66/82.26 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ .7270 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.70
3. นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 14.00 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 32.90
4. นักเรียนมีความพึงพอใจในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา พ23103
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.28)