บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
ผู้รายงาน นางนุชจิรา มหาพัฒนไทย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ระยะเวลาที่ศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๕๙
สถานศึกษา โรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๘
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ ๑) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา
ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
๓) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญก่อนเรียนและหลังเรียน
ของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๕ โรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๘ ที่เรียนในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๔๐ คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับสลาก โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยของการสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย
๑) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา
ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๘ เล่ม
๒) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ จำนวน ๘ แผน
๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๔๐ ข้อ
๔) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ
๕) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R จำนวน ๒๐ ข้อ
ใช้แบบแผนการวิจัยแบบ One-group pretest-posttest design สถิติที่ใช้
ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และการทดสอบค่าที (t-test) แบบ Dependent Sample
ผลการศึกษาพบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๔.๖๙/๘๓.๔๓ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
๒. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑
๓. นักเรียนมีความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R หลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑
๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โดยภาพรวมในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๘๕ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ ๐.๔๔ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านเนื้อหา มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๘๗ รองลงมาคือ ด้านกระบวนการเรียนรู้ มีความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๘๕ ด้านสื่อ/นวัตกรรม มีความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๘๕ และด้านการวัดและประเมินผล มีความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๘๓ ตามลำดับ