ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
โครงการการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านเขาแก้ว อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ปีการศึกษา 2558

ผู้รายงาน : นางกัลยาณี ลีสุรพงศ์

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหินลูกช้าง

ปีที่ประเมิน : 2558

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านเขาแก้วอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ปีการศึกษา 2558 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสภาพแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ต่อการดำเนินงานโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (Context Input Process Product Evaluation Model : CIPP Model) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลได้แก่กลุ่มตัวอย่าง ปีการศึกษา 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 87 คน แบ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 36 คน ครู จำนวน 8 คน ผู้ปกครอง 36 คน และคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย แบบสอบถามที่ผู้ประเมิน ได้สร้างขึ้น จำนวน 4 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.85 - 0.94 และแบบบันทึก 3 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรม Excelผลการประเมิน สรุปได้ดังนี้

ผลการประเมิน

1. ผลการประเมินโครงการการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านเขาแก้ว อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โดยรวมมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านผลผลิต มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านกระบวนการ ด้านปัจจัยนำเข้า และด้านสภาพแวดล้อม ตามลำดับ

2. ผลการประเมินสภาพแวดล้อม พบว่า การดำเนินการมีความเหมาะสมในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดพบว่า ทุกตัวชี้วัดมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ความสอดคล้องกับนโยบายต้นสังกัด ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ สภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการ ความจำเป็นและความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ

3. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้า พบว่า การดำเนินการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ตัวชี้วัดที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ หน่วยงานที่สนับสนุนโครงการ ลำดับรองลงมา คือ การบริหารจัดการ และค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ความพร้อมของบุคลากร

4. ผลการประเมินกระบวนการ พบว่า การดำเนินการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ การนำผลการประเมิน มาปรับปรุงและพัฒนา (A) การติดตาม การประเมินผล (C) การวางแผน (P) และการดำเนินงาน (D)

5. ผลการประเมินผลผลิต พบว่า การดำเนินการได้ผลอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดพบว่า ตัวชี้วัดส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก ซึ่งผลการประเมินตัวชี้วัดย่อย สรุปได้ดังนี้

5.1 ผลการประเมินคุณภาพการจัดสภาพแวดล้อม พบว่า การดำเนินการได้ผลอยู่ในระดับมากทุกกลุ่มที่ประเมิน

5.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 ปีการศึกษา 2558 สูงกว่าปีการศึกษา 2557 และผ่านเกณฑ์การประเมิน

5.3 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O-NET) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2558 สูงกว่าปีการศึกษา 2557 และผ่านเกณฑ์การประเมิน

5.4 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 ปีการศึกษา 2558 สูงกว่าปีการศึกษา 2557 และผ่านเกณฑ์การประเมิน

6. ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานโครงการการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านเขาแก้ว คือ ควรดำเนินการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และควรดำเนินกิจกรรมประสานความร่วมมือโดยเฉพาะจากผู้ปกครองและชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาบริหารจัดการการศึกษาฝ่ายอื่นๆ ของโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. ประเด็นสภาพแวดล้อมของโครงการ

จากผลการประเมินที่พบว่า อยู่ในระดับมาก โดยมีผลการประเมินตัวชี้วัดความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด จึงควรกำหนดวัตถุประสงค์ และประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางที่โรงเรียนได้วางไว้ที่เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน

2. ประเด็นปัจจัยนำเข้าของโครงการ

จากผลการประเมินพบว่า อยู่ในระดับมาก ในระดับตัวชี้วัดพบว่าตัวชี้วัดความพร้อมของบุคลากร มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด จึงควรจัดให้มีการเตรียมความพร้อมของบุคลากรในด้านความรู้ ความสามารถและความรับผิดชอบ หรือการมีส่วนร่วม เป็นต้น

3. ประเด็นกระบวนการของโครงการ

จากผลการประเมินพบว่า อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่าตัวชี้วัด การดำเนินการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ควรชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของโครงการอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรประเมินโครงการนี้ในทุกปี เพื่อให้ได้สารสนเทศที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเป็นแนวทางแก่โครงการอื่น ๆ ต่อไป

2. ควรศึกษาตัวชี้วัดอื่นๆ ที่มีอิทธิพลกับตัวชี้วัดที่มีอยู่ เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. ควรนำรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ไปประยุกต์ใช้ในการประเมินโครงการอื่นๆ ของโรงเรียนเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมของโครงการ ปัจจัยนำเข้าของโครงการ กระบวนการดำเนินโครงการ และผลผลิตของโครงการ เพื่อนำสารสนเทศที่ได้ไปใช้ในการวางแผนแก้ปัญหา หรือพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อผู้เรียน

โพสต์โดย สาว : [10 พ.ค. 2560 เวลา 09:25 น.]
อ่าน [3713] ไอพี : 106.0.210.231
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,314 ครั้ง
เปลือกไข่ช่วยให้ผ้าขาว
เปลือกไข่ช่วยให้ผ้าขาว

เปิดอ่าน 10,360 ครั้ง
ถ้อยคำกินใจ..จากแม่ผู้เป็นแม่ค้า ส่งเสียลูกเรียนมหาวิทยาลัย
ถ้อยคำกินใจ..จากแม่ผู้เป็นแม่ค้า ส่งเสียลูกเรียนมหาวิทยาลัย

เปิดอ่าน 9,450 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 52,178 ครั้ง
หลักเกณฑ์สอบศึกษานิเทศก์
หลักเกณฑ์สอบศึกษานิเทศก์

เปิดอ่าน 50,617 ครั้ง
โลกออนไลน์ชื่นชม ผอ.โรงเรียนเข้ารับตำแหน่ง ร่ายกลอนลำและอารมณ์ขัน สร้างบรรยากาศที่ดีในโรงเรียน
โลกออนไลน์ชื่นชม ผอ.โรงเรียนเข้ารับตำแหน่ง ร่ายกลอนลำและอารมณ์ขัน สร้างบรรยากาศที่ดีในโรงเรียน

เปิดอ่าน 20,070 ครั้ง
แรงบันดาลใจ ถ่ายรูปให้ลูกมุมเดิม 14 ปี ตั้งแต่เด็กจนโต ชมคลิป
แรงบันดาลใจ ถ่ายรูปให้ลูกมุมเดิม 14 ปี ตั้งแต่เด็กจนโต ชมคลิป

เปิดอ่าน 17,689 ครั้ง
วันออกพรรษา
วันออกพรรษา

เปิดอ่าน 8,640 ครั้ง
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

เปิดอ่าน 14,870 ครั้ง
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?

เปิดอ่าน 20,786 ครั้ง
วีดิทัศน์คณิตศาสตร์ ชั้น ป.4 โดย สสวท.
วีดิทัศน์คณิตศาสตร์ ชั้น ป.4 โดย สสวท.

เปิดอ่าน 19,297 ครั้ง
การสะเดาะห์เคราะห์ด้วยการปล่อยปลา
การสะเดาะห์เคราะห์ด้วยการปล่อยปลา

เปิดอ่าน 26,444 ครั้ง
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก

เปิดอ่าน 13,702 ครั้ง
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"

เปิดอ่าน 26,736 ครั้ง
วิธีการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
วิธีการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 5,619 ครั้ง
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี

เปิดอ่าน 11,848 ครั้ง
อยากอยู่ร้อยปี ต้องสร้าง 10 นิสัยสุขภาพดี
อยากอยู่ร้อยปี ต้องสร้าง 10 นิสัยสุขภาพดี
เปิดอ่าน 12,214 ครั้ง
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน
เปิดอ่าน 25,359 ครั้ง
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
เปิดอ่าน 15,559 ครั้ง
ต้นกำเนิด "ร่ม"
ต้นกำเนิด "ร่ม"
เปิดอ่าน 2,168 ครั้ง
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ