บทที่ 5
สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ
การวิจัยหรือการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ (3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาลเมืองทุ่งสง สังกัดเทศบาลเมืองทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 26 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) (1) เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เป็นแบบปรนัย 30 ข้อ จำนวน 1 ฉบับ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 24 ข้อ จำนวน 1 ฉบับ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test)
สรุปผลการวิจัย
1. เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 85.35/83.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วย เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมากที่สุด
อภิปรายผล
ผลของการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สามารถอภิปรายผล ได้ดังนี้
เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและ
ดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 85.35/83.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 เนื่องจากผู้วิจัยได้ผ่านขั้นตอนในการจัดทำอย่างมีระบบ มีวิธีการสร้างเอกสารประกอบการสอนที่เหมาะสม โดยศึกษาจากหลักสูตร เนื้อหา เทคนิควิธีการจากเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อีกทั้งยังผ่านการตรวจสอบ ประเมินความถูกต้อง แก้ไขข้อบกพร่อง ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ผ่านการทดลอง ปรับปรุงการใช้ให้มีความสมบูรณ์ก่อนนำไปทดลองใช้จริง จนได้เอกสารประกอบการเรียนรู้ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด คือเอกสารประกอบการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.35/83.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ 80/80 ตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1 ที่กำหนดไว้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ เบญจวรรณ ยวนเกิด(2552) ได้ทำการวิจัยเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการศึกษาพบว่า เอกสารประกอบการสอนที่สร้างขึ้นแต่ละเล่มมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.95/81.78 และ ธัญวัฒน์ กาบคำ (2555) ได้ทำการวิจัยเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องวีดีโอสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน พบว่า เอกสารประกอบการเรียน เรื่องวีดีโอสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งมีประสิทธิภาพ 85.39/84.71 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน80/80 และจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้เอกสารประกอบการเรียนรู้เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เนื่องจากผู้วิจัยได้ทำเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นใช้เสริมสร้างทักษะทางการงานอาชีพและเทคโนโลยี ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ น่าจะมีเหตุผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ที่มีภาพประกอบ เนื้อหาสาระ ขั้นตอนการทำกิจกรรมน่าสนใจ ไม่ยากเกินไป เหมาะกับวัยและความสามารถของนักเรียน นักเรียนได้สร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเอง มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน รวมทั้งอาจเป็นเพราะการสอนที่มีการวางแผนอย่างดี กิจกรรมมีความสนุกสนาน ผลการเรียนหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ จึงมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งสอดคล้องกับ ผลการศึกษาของ ธัญวัฒน์ กาบคำ (2555) ได้ทำการวิจัย เรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องวีดีโอสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และจำเนียร บุญนิล(2556) ได้ทำการวิจัยเรื่อง ผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด งานช่างพื้นฐานและอาชีพในฝัน รายวิชา ง21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ.01 นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ พิกุล เตชะสี (2556) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การประดิษฐ์ชิ้นงานจากใบตอง สาระการเรียนรู้เพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คือ 4.55 ทั้งนี้เอกสารประกอบการเรียนรู้มีความเหมาะสมกับผู้เรียน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองทำให้มีความกระตือรือร้นในการเรียน มีความสนุกและตื่นเต้นในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการกระตุ้นให้เด็กมีความสนใจ และเอาใจใส่ต่อบทเรียนอีกทั้งช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจบทเรียนดียิ่งขึ้น เพราะผู้เรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการด้วยตนเอง เน้นการปฏิบัติด้วยตนเอง ฝึกกระบวนการทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนส่งผลให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่ดี มีความรักความสามัคคีร่วมกันในกลุ่ม จึงทำให้นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนและส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ศรีจิตต์ หล่อสิงห์คำ (2553) ไดทำการวิจัยเรื่อง รายงานการสร้างและใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาการงานอาชีพ และเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) รหัสวิชา ง33101
ชุด งานประดิษฐ์เพื่อชีวิตที่พอเพียง ผลการศึกษาพบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์ ) รหัสวิชา ง33101 ชุด งานประดิษฐ์เพื่อชีวิตที่พอเพียง อยู่ในระดับมาก ( x ̅= 4.25, S.D. = 0.96) และธัญวัฒน์ กาบคำ (2555) ได้ทำการวิจัยเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องวีดีโอสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องวีดีโอสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ในระดับมากที่สุด นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ พิกุล เตชะสี (2556) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การประดิษฐ์ชิ้นงานจากใบตอง สาระการเรียนรู้เพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนลำปาววิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การประดิษฐ์ชิ้นงานจากใบตอง สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยรวมอยู่ในระดับมาก
ข้อเสนอแนะ
จากผลการวิจัยเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ
กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยขอเสนอแนวทางในการนำผลการวิจัยไปใช้และเพื่อศึกษาวิจัยต่อไป ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. ข้อเสนอแนะทั่วไป
จากข้อมูลที่ค้นพบจากผลของการวิจัย ขอเสนอแนะการนำผลของการวิจัยไปใช้ดังนี้
1.1 ครูผู้สอนในสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สามารถนำเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ไปใช้กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองได้มากยิ่งขึ้น
1.2 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติกิจกรรม เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรง มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้เป็นกลุ่ม สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
เป็นวิธีการแสวงหาความรู้อย่างเป็นระบบ ดังนั้นครูควรสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ ไม่เคร่งเครียด ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตนเองของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเป็นพื้นฐานในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มและการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดีต่อไป
1.3 จากการวิจัยพบว่า เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีสูงขึ้นผู้เรียนรู้จักค้นคว้า หาความรู้ด้วยตนเอง สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นผู้บริหารควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูผู้สอน ได้มีการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ ในรายวิชาอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป
1.4 การนำเอกสารประกอบการเรียนรู้ไปใช้ ครูผู้สอนจำเป็นต้องศึกษาคู่มือครูอย่างละเอียดเพราะเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง เย็บร้อย ค่อยจีบ กลีบใบตอง รายวิชา งานใบตองและดอกไม้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย แผนการสอน เอกสารประกอบการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งครูผู้สอนควรเตรียมอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ให้มีความพร้อม เพื่อให้
การจัดการเรียนการสอนดำเนินไปได้โดยสะดวก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนสนใจปฏิบัติกิจกรรม และค้นคว้าความรู้ได้มากยิ่งขึ้น
1.5 ครูผู้สอนควรมีการจัดแสดงผลงานของผู้เรียนต่อสาธารณชน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในผลงาน และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการและความมุ่งมั่นใน
การสร้างสรรค์ผลงานชิ้นอื่น ๆ ต่อไป
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีการสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ในรายวิชาอื่น ๆในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ การฝึกทักษะปฏิบัติ สามารถนำไปประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
2.2 ควรมีการสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ในกลุ่มสาระอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เละเพื่อเป็นเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้ใช้ศึกษาค้นคว้า
2.3 ควรมีการวิจัยเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนงานใบตองและดอกไม้ระหว่างการสอนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้กับวิธีการสอนแบบอื่นที่หลากหลาย เช่น วิธีการสอนแบบโครงงาน หรือวิธีการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ตลอดจนวิธีสอนแบบดั้งเดิม
2.4 ควรมีการสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ในเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับท้องถิ่น เพื่อให้ผู้เรียนได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้