ชื่อเรื่อง การนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์
ปฐมวัยตามแนวทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย สำหรับครูปฐมวัย
ด้วยเทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) และวิธีเสริมพลังครู (Empowered
Development Approach)
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางสาวปริชมน กาลพัฒน์
หน่วยงาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้าเพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยตามแนวทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย สำหรับครูปฐมวัยด้วยเทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) และวิธีเสริมพลังครู (Empowered Development Approach) 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อเทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ(Coaching) และวิธีเสริมพลังครู(Empowered Development Approach) 3) เพื่อศึกษาความสามารถของเด็กปฐมวัยในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัย โดยใช้การวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) จำนวน 2 วงรอบ แต่ละวงรอบประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) ใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาคือ การอบรมเชิงปฏิบัติการ เทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ(Coaching) และวิธีเสริมพลังครู(Empowered Development Approach) กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้ามีจำนวน 21 คน ประกอบด้วย ผู้ศึกษาค้นคว้า จำนวน 1 คน ผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าโดยสมัครใจ จำนวน 20 คน ได้แก่ ครูปฐมวัยที่เข้าร่วมโครงการ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย รุ่นที่ 1 จำนวน 4 คน และครูปฐมวัยที่เข้าร่วมโครงการ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย รุ่นที่ 2 จำนวน 16 คน กลุ่มผู้ร่วมพัฒนา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ครูปฐมวัยที่มีประสบการณ์ จำนวน 4 คน และกลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 438 คน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 20 คน และนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 418 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบสอบถาม แบบบันทึก และแบบประเมิน การตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation Technique) และนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้าโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
การนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัย โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย สำหรับครูปฐมวัยด้วยเทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) และวิธีเสริมพลังครู (Empowered Development Approach) ในวงรอบที่ 1 โดยใช้ กลยุทธ์ในการพัฒนา 3 กลยุทธ์ คือ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) และ
วิธีเสริมพลังครู (Empowered Development Approach) ซึ่งสรุปผลการศึกษาทั้ง 2 วงรอบ ได้ดังนี้
1. ผลการนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัยตามแนวทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทยสำหรับ ครูปฐมวัยด้วยเทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) และวิธีเสริมพลังครู (Empowered Development Approach) ดังนี้
1.1 กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทุกคนทั้ง 20 คน มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัยตามแนวทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากคะแนนทดสอบหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการผ่านเกณฑ์ที่กำหนดทุกคนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ทั้ง 20 คน และความพึงพอใจที่มีต่อการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59) แสดงว่า กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการมีส่วนช่วยให้กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้ามีความรู้ความเข้าใจเรื่อง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยตามแนวทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
1.2 กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทุกคนทั้ง 20 คน สามารถเขียนแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่อยอดสู่ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัย มีความเหมาะสมของแผนจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่อยอดสู่การทำโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยของกลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้า โดยภาพรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ( = 4.58)
1.3 กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทุกคนทั้ง 20 คน มีพฤติกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัย ของกลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าโดยภาพรวมอยู่ในระดับ ดีมาก ( = 4.50) ครูสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัยได้ครบทั้ง 6 ขั้นตอน และจากการสังเกตพฤติกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่อยอดสู่การทำโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัย กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้ามีการปฏิบัติในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 100
1.4 กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทุกคนทั้ง 20 คน สามารถเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัยได้ พบว่า ผลการประเมินการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัย รูปแบบวัฏจักรวิจัยของกลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทุกคนทั้ง 20 คน โดยรวมเฉลี่ยทั้ง 2 วงรอบ อยู่ในระดับดี ( = 4.49)
2. ความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อเทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ(Coaching)และวิธีเสริมพลังครู (Empowered Development Approach) พบว่า ความพึงพอใจของของครูปฐมวัยที่มีต่อการนิเทศด้วยเทคนิคการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) และวิธีเสริมพลังครู (Empowered Development Approach) โดยรวมเฉลี่ยทั้ง 2 วงรอบ โดยรวมเฉลี่ยมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.70)
3. ความสามารถของเด็กปฐมวัยในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัย พบว่า ความสามารถของเด็กปฐมวัยในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์รูปแบบวัฏจักรวิจัยโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ( = 2.54)
สรุปผลการพัฒนาทั้ง 2 วงรอบ ผลปรากฏว่า กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทั้ง 20 คน มีความรู้ ความเข้าใจในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยตามแนวทางโครงการ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย สามารถเขียนแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่อยอดสู่ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัยสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่อยอดสู่ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัย และครูปฐมวัยกลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทั้ง 20 คน สามารถเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยรูปแบบวัฏจักรวิจัยตามแนวทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ได้โดยบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาได้เป็นอย่างดี เด็กปฐมวัยกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 20 โรงเรียน จำนวน 418 คน มีความสุข ความสนุก ความเพลิดเพลิน ความกระตือรือร้นสนุกสนานกับการเรียนรู้ เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองและสามารถคิดอย่างเป็นเหตุ เป็นผล เด็กมีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ และเด็กปฐมวัยสามารถทำโครงงานวิทยาศาสตร์รูปแบบ วัฏจักรวิจัยได้ และในการพัฒนาครั้งที่กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าทั้ง 20 คน จำนวน 20 โรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย มีผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ปฐมวัยฉบับจริงเพื่อยื่นขอรับตราพระราชทานและคงสภาพความเป็น บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ส่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทันตามระยะเวลาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด