การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน สาระเพิ่มเติมโครงงานวิทยาศาสตร์ ว 16201 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่งหว้า 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน 3) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนจากการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่งหว้า อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ปีการศึกษา 2556 จำนวน 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีจำนวน 5 ชนิด คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์จากการปฏิบัติกิจกรรม 4) แบบประเมินการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. )
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์
ที่กำหนดไว้ 80/80 โดยมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.95/84.90
2. ผลการใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน พบว่า
2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
2.2 ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน มีประสิทธิภาพ E1/E2 = 84.96/86.44 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2.3 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้คะแนนการประเมินความคิดสร้างสรรค์ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ทุกคน
2.4 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความสามารถในการทำโครงงานผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ทุกคน
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนสืบเสาะสอนให้คิดเพื่อพิชิตโครงงาน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59 )