ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชาภาษาไทย
ท ๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนศรีรัตนวิทยา
ผู้วิจัย นางสาวณัฏฐากุลยา จันทร์เปรียง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียน โรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๒๘
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ปีที่วิจัย พ.ศ. ๒๕๕๙
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชาภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลทางการเรียน เรื่อง การอ่านในชีวิตประจำวัน จาการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ๓) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๒๘ คน จำนวน ๑ ห้องเรียน โรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๒๘ โดยการเลือกแบบสุ่มกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ๑) แบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๒ จำนวน ๘ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๒๔ แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านในชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๓๐ ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .๓๖ - .๘๖ ค่าอำนาจจำแนกรายข้ออยู่ระหว่าง .๓๖ - .๘๐ และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .๘๕ ๔) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๒๐ ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .๔๒ - .๘๐ และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .๙๐ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๓.๗๑/๘๔.๖๔ ซึ่งเท่ากับเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
๒. ดัชนีประสิทธิผลทางการเรียน เรื่อง การอ่านในชีวิตประจำวัน ของนักเรียน จากการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีค่าเท่ากับ ๐.๗๒๐๒ แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ ๗๒.๐๒ สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ ร้อยละ ๕๐
๓. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .๐๕
๔. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านในชีวิตประจำวัน วิชา ภาษาไทย ท๒๒๑๐๒ ประกอบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (TAI) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = ๔.๑๖) โดยมีด้านที่มีความพึงพอใจมากที่สุดคือด้านสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอน ( = ๔.๕๗) ส่วนด้านที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือด้านเนื้อหา ( = ๓.๙๔)